พระสุตตันตปิฎกไทย: 17/10/16 17 18 19 20 21

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
เล่ม 17
หน้า 10

[๑๖] ดูกรคฤหบดี ก็มุนีเป็นผู้สนิทสนมในบ้านอย่างไร? ดูกรคฤหบดีมุนีบางคนใน โลกนี้ เป็นผู้คลุกคลีกับพวกคฤหัสถ์อยู่ คือเป็นผู้พลอยชื่นชมกับเขา พลอยโศกกับเขา เมื่อ พวกคฤหัสถ์มีสุขก็สุขด้วย มีทุกข์ ก็ทุกข์ด้วย เมื่อพวกคฤหัสถ์มีกรณียกิจที่ควรทำเกิดขึ้น ก็ขวนขวายในกรณียกิจเหล่านั้นด้วยตนเอง. ดูกรคฤหบดี มุนีเป็นผู้สนิทสนมในบ้าน อย่างนี้แล.
[๑๗] ดูกรคฤหบดี ก็มุนีไม่เป็นผู้สนิทสนมในบ้านอย่างไร? ดูกรคฤหบดี ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้ ไม่เป็นผู้คลุกคลีกับพวกคฤหัสถ์ คือ ไม่พลอยชื่นชมกับเขา ไม่พลอยโศกกับเขา เมื่อพวกคฤหัสถ์มีสุข ก็ไม่สุขด้วย มีทุกข์ ก็ไม่ทุกข์ด้วย เมื่อคฤหัสถ์มีกรณียกิจที่ควรทำเกิดขึ้นก็ ไม่ขวนขวายในกรณียกิจเหล่านั้นด้วยตนเอง. ดูกรคฤหบดีมุนีไม่เป็นผู้สนิทสนมในบ้าน อย่างนี้แล.
[๑๘] ดูกรคฤหบดี ก็มุนีเป็นผู้ไม่ว่างจากกามทั้งหลายอย่างไร? ดูกรคฤหบดี มุนีบาง คนในโลกนี้ ยังเป็นผู้ไม่ปราศจากความกำหนัด ความพอใจ ความรัก ความกระหาย ความ กระวนกระวาย ความทะยานอยากในกามทั้งหลาย. ดูกรคฤหบดี มุนีเป็นผู้ไม่ว่างจากกามทั้ง หลาย อย่างนี้แล.
[๑๙] ดูกรคฤหบดี ก็มุนีเป็นผู้ว่างจากกามทั้งหลายอย่างไร? ดูกรคฤหบดี ภิกษุบางรูป ในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ความพอใจ ความรัก ความกระหาย ความ กระวนกระวาย ความทะยานอยากในกามทั้งหลาย. ดูกรคฤหบดี มุนีเป็นผู้ว่างจากกามทั้งหลาย อย่างนี้แล.
[๒๐] ดูกรคฤหบดี ก็มุนีเป็นผู้มุ่งถึงกาลข้างหน้าอย่างไร? ดูกรคฤหบดี มุนีบางคน ในโลกนี้ มีความปรารถนาอย่างนี้ว่า ในกาลข้างหน้า ขอเราพึงเป็นผู้มีรูปอย่างนี้ มีเวทนาอย่าง นี้ มีสัญญาอย่างนี้ มีสังขารอย่างนี้ มีวิญญาณอย่างนี้. ดูกรคฤหบดี มุนีเป็นผู้มุ่งถึงกาลข้าง หน้า อย่างนี้แล.
[๒๑] ดูกรคฤหบดี ก็มุนีเป็นผู้ไม่มุ่งถึงกาลข้างหน้าอย่างไร? ดูกรคฤหบดี ภิกษุบาง รูปในธรรมวินัยนี้ ไม่มีความปรารถนาอย่างนี้ว่า ในกาลข้างหน้า ขอเราพึงเป็นผู้มีรูปอย่างนี้ มี เวทนาอย่างนี้ มีสัญญาอย่างนี้ มีสังขารอย่างนี้ มีวิญญาณอย่างนี้. ดูกรคฤหบดี มุนีเป็นผู้ไม่มุ่ง ถึงกาลข้างหน้า อย่างนี้แล.