พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/100/89
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
เป็นภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ ดังนี้บ้าง ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อสิ่งที่มิใช่ประโยชน์ เพื่อ
มิใช่สุข เพื่อความฉิบหายแก่ชนมาก เพื่อมิใช่เกื้อกูล เพื่อทุกข์ แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ แก่ชนมาก เพื่อเกื้อกูลเพื่อสุข แก่เทวดาและ
มนุษย์ทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุผู้เถระย่อมเป็นพระเถระ รัตตัญญู
บวชนาน ๑ เป็นผู้มีชื่อเสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวาร ปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์ และ
บรรพชิต ๑ เป็นผู้ได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ๑ เป็นพหูสูต
ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะเป็นผู้ได้สดับมาก ทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อม
ทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ๑ เป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นไม่วิปริต
เธอย่อมยังชนหมู่มากให้ห่างเหินจากอสัทธรรมให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม ชนหมู่มากย่อมยึดถือทิฏฐา
นุคติของเธอว่า เธอเป็นภิกษุผู้เถระ รัตตัญญู บวชนานดังนี้บ้าง เธอเป็นภิกษุผู้เถระ มีชื่อ
เสียง มียศ มีชนหมู่มากเป็นบริวาร ปรากฏแก่พวกคฤหัสถ์และบรรพชิต ดังนี้บ้าง เธอเป็น
ภิกษุผู้เถระ ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ดังนี้บ้างเธอเป็น
ภิกษุผู้เถระ ผู้เป็นพหูสูต ทรงไว้ซึ่งสุตะ สั่งสมสุตะ ดังนี้บ้าง ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้
เถระประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อ
ความเจริญ แก่ชนมาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
จบสูตรที่ ๘
๙. เสขสูตรที่ ๑
[๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุ
ผู้เสขะ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้ยินดีในการก่อสร้าง ๑ ความเป็นผู้ยินดี
ในการเจรจาปราศรัย ๑ ความเป็นผู้ยินดีในการนอน ๑ความเป็นผู้ยินดีในการคลุกคลีด้วยหมู่
คณะ ๑ ไม่พิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อม
เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุผู้เสขะ ฯ