พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/112/51
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เราประกอบด้วยบุพกรรม มีจิตชื่นชม ตั้งมั่นด้วยดี เป็นบุตรผู้เกิดแต่
พระหทัยของพระพุทธเจ้า อันธรรมนิรมิตดีแล้ว เราเข้าไปเฝ้าพระธรรมราชา
แล้ว ได้ทูลถามปัญหาอันสูงสุด และเมื่อพระผู้มีพระภาคจะทรงแก้ปัญหา
ของเราได้ตรัสกระแสธรรม เรารู้ทั่วถึงธรรมของพระองค์แล้ว ยินดีใน
ศาสนาอยู่ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว ไม่มีอาสวะอยู่ ในแสนกัลป
แต่กัลปนี้ พระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตระผู้นายกอุดม ไม่ทรงมีอุปาทาน
เสด็จนิพพานแล้ว ดังประทีปดับเพราะสิ้นน้ำมัน ฉะนั้น พระสถูปแก้ว
ของพระผู้มีพระภาคสูงประมาณ ๗ โยชน์ เราได้ทำธงสวยงามกว่าธงทั้งปวง
เป็นที่รื่นรมย์ใจ บูชาไว้ที่พระสถูปนั้น พระอัครสาวกชื่อติสสะ ของ
พระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสป เป็นบุตรผู้เกิดในหทัยของเรา เป็นทายาท
ในพระพุทธศาสนา เรามีใจเลวทรามได้กล่าววาจาอันไม่เจริญแก่พระอัคร
สาวกนั้น ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ความเจริญจึงได้มีแก่เราในภายหลังพระ
มุนีมหาวีรชินเจ้า ผู้ทรงเกื้อกูลประกอบด้วยพระกรุณา ทรงประทานบรรพชา
แก่เราบนที่บรรทมครั้งสุด ณ ศาลวันอันเป็นที่เวียนมาแห่งมัลลกษัตริย์
ทั้งหลาย บรรพชาก็มีในวันนี้เดี๋ยวนี้เอง อุปสมบทก็ในวันนี้เอง ปรินิพพาน
ก็ในวันนี้เอง เฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคผู้สูงสุดกว่าสัตว์ คุณ
วิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้
แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสุภัททเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบสุภัททเถราปทาน.
---------------