พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/113/52
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
จุนทเถราปทานที่ ๑๐ (๕๐)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกไม้
[๕๒] เราได้ให้ทำดอกไม้อันเป็นวัตถุควรบูชา เพื่อถวายแด่พระผู้มีพระภาค
พระนามว่าสิทธัตถะเชษฐบุรุษของโลกผู้คงที่ แล้วปกปิดด้วยดอกมะลิ เรา
ให้ทำดอกไม้นั้นสำเร็จแล้ว น้อมเข้าไปถวายแด่พระพุทธเจ้า และถือเอา
ดอกไม้ที่เหลือไปบูชาพระพุทธเจ้า เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส นำเอา
ดอกไม้เข้าไปบูชาพระพุทธเจ้าผู้เช่นกับทองคำมีค่า เป็นอัครนายกของโลก
พระสัมพุทธเจ้าผู้ทรงข้ามความสงสัยแล้ว ผู้ข้ามห้วงกิเลสได้แล้ว แวดล้อม
ด้วยพระขีณาสพ ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้
ว่าผู้ใดได้ถวายดอกไม้มีค่า มีกลิ่นหอมฟุ้งแก่เรา เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่าน
ทั้งหลายจงฟังเรากล่าว บุคคลผู้นี้เคลื่อนจากโลกนี้แล้ว จักแวดล้อมด้วย
หมู่เทวดา เกลื่อนกล่นด้วยดอกมะลิ จักไปสู่เทวโลก ภพของบุคคลนั้น
(สูง) น่าหวาดเสียว สำเร็จด้วยทองและแก้วมณี วิมานทั้งหลายอันเกิด
ด้วยกรรม จักปรากฏ เขาจักได้เสวยเทวรัชสมบัติ ๗๔ ครั้ง จักแวดล้อม
ด้วยนางอัปสรเสวยสมบัติ จักได้เป็นพระราชาในแผ่นดิน ครอบครอง
พสุธา ๓๐๐ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๗๕ ครั้ง จักเป็นใหญ่กว่า
มนุษย์ มีนามชื่อว่าทุชชยะ เสวยบุญนั้นประกอบด้วยกรรมของตน ไม่ไปสู่
วินิบาต จักไปสู่ความเป็นมนุษย์ เงินที่บุคคลนั้นสั่งสมไว้แล้ว แม้ร้อยโกฏิ
มิใช่น้อย บุคคลนั้นจักบังเกิดในกำเนิดเป็นพราหมณ์ เป็นบุตรผู้มีปัญญา
ของวังคันตพราหมณ์ เป็นโอรสผู้เป็นที่รักของนางสารีพราหมณี และภายหลัง
เขาจักบวชในศาสนาของพระอังคีรส จักได้เป็นพระสาวกของพระศาสดา
มีนามชื่อว่า จูฬจุนทะ เขาจักได้เป็นพระขีณาสพแต่ยังเป็นสามเณรทีเดียว
กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะนิพพาน เราได้บำรุงพระมหาวีรเจ้า
และพระสาวกอื่นๆ ผู้มีศีลเป็นอันมาก และบำรุงพระเถระผู้พี่ชายของเรา