พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/114/291 292 293 294 295

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 114

[๒๙๑] คำว่า เยเกจิ ในอุเทศว่า เยเกจิเม สมณพฺราหฺมณา เส ดังนี้ ความว่า ทั้งปวงโดยกำหนดทั้งปวง ทั้งปวงโดยประการทั้งปวง ไม่เหลือ มีส่วนไม่เหลือ. คำว่า เยเกจิ นี้เป็นเครื่องกล่าวรวมหมด. ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งเข้าถึงการบวช คือ ถึงพร้อมด้วยการบวช ภายนอกพุทธศาสนานี้ ชื่อว่าสมณะ. ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งอ้างว่าตนมีวาทะเจริญ ชื่อว่า พราหมณ์. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า สมณพราหมณ์. บทว่า อิติ ในอุเทศว่า อิจฺจายสฺมา นนฺโท ดังนี้ เป็นบทสนธิ. คำว่า อายสฺมา เป็นเครื่องกล่าวด้วยความรัก. คำว่า นนฺโท เป็นชื่อ ฯลฯ เป็นคำร้องเรียกของพราหมณ์นั้น. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ท่านพระนันทะทูลถามว่า.
[๒๙๒] คำว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยการเห็นและการฟังบ้าง ความว่า ย่อมกล่าว คือ ย่อมพูด ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติความหมดจด คือ ความหมดจดวิเศษ ความ บริสุทธิ์ ความพ้น ความพ้นวิเศษ ความพ้นรอบ ด้วยการเห็นบ้าง ... ด้วยการสดับบ้าง ... ด้วยการ เห็นและการสดับบ้าง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยการเห็นและด้วยการ สดับบ้าง.
[๒๙๓] คำว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยศีลและวัตรบ้าง ความว่า ย่อมกล่าว ... ย่อมบัญญัติความหมดจด ... ความพ้นรอบด้วยศีลบ้าง ... ด้วยวัตรบ้าง ... ด้วยทั้งศีลและวัตรบ้าง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยศีลและวัตรบ้าง.
[๒๙๔] คำว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยมงคลหลายชนิด ความว่า ย่อมกล่าว ... ย่อมบัญญัติความหมดจด ... ความพ้นรอบด้วยมงคลคือวัตรและความตื่นข่าวมากอย่าง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยมงคลหลายชนิด.
[๒๙๕] คำว่า กจฺจิสฺส ในอุเทศว่า กจฺจิสฺส เต (ภควา) ตตฺถ ยตา จรนฺตา ดังนี้ เป็นการถามด้วยความสงสัย เป็นการถามด้วยความเคลือบแคลง เป็นการถามสองแง่ ไม่เป็นการ ถามส่วนเดียวว่า เรื่องนั้นเป็นอย่างนี้หรือหนอแล หรือไม่เป็นอย่างนี้? เรื่องนี้เป็นไฉนหนอแล หรือเป็นอย่างไร? เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่าบ้างหรือ. คำว่า เต คือ พวกสมณพราหมณ์ผู้มีทิฏฐิเป็นคติ. คำว่า ภควา นี้ เป็นเครื่องกล่าวโดยเคารพ ฯลฯ คำว่า ภควา นี้ เป็นสัจฉิกาบัญญัติ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พวกสมณพราหมณ์นั้น ... บ้างหรือ.