พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/115/296 297

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 115
คำว่า ตตฺถ ในอุเทศว่า ตตฺถ ยตา จรนฺตา ดังนี้ ความว่า ในทิฏฐิของตน ในความควรของตน ในความชอบใจของตน ในลัทธิของตน. คำว่า ยตา ความว่า สำรวม สงวน คุ้มครอง รักษา ระวัง. คำว่า เที่ยวไป ความว่า เที่ยวไป เที่ยวไปทั่ว ผลัดเปลี่ยนอิริยาบถเป็นไป รักษา บำรุง เยียวยา เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า (ข้าแต่พระผู้มีพระภาค) สมณพราหมณ์เหล่านั้นเป็นผู้สำรวม แล้วประพฤติอยู่ในทิฏฐินั้น ... บ้างหรือ.
[๒๙๖] คำว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ... ได้ข้ามแล้วซึ่งชาติและชรา ความว่า ได้ข้ามแล้ว คือ ข้ามขึ้น ข้ามพ้น ก้าวล่วง เป็นไปล่วงแล้วซึ่งชาติชราและมรณะ. คำว่า มาริส เป็นเครื่องกล่าวด้วยความรัก คำว่า มาริสนี้ เป็นเครื่องกล่าวเป็นไปกับ ด้วยความเคารพและความยำเกรง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ ... ได้ข้ามแล้ว ซึ่งชาติและชรา.
[๒๙๗] คำว่า ปุจฺฉามิ ตํ ในอุเทศว่า ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ ดังนี้ ความว่า ข้าพระองค์ขอทูลถาม ทูลขอ ทูลเชื้อเชิญ ทูลให้ประกาศซึ่งปัญหานั้นว่า ขอพระองค์จงตรัส บอกปัญหานั้นแก่ข้าพระองค์ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ข้าพระองค์ขอทูลถามปัญหานั้น. คำว่า ภควา นี้ เป็นเครื่องกล่าวโดยเคารพ ฯลฯ คำว่า ภควา นี้ เป็นสัจฉิกาบัญญัติ. คำว่า ขอพระองค์จงตรัสบอกปัญหานั้นแก่ข้าพระองค์ ความว่า ขอพระองค์จงตรัส ... จงประกาศ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ขอทูลถามปัญหานั้น. ขอพระองค์โปรดตรัสบอกปัญหานั้นแก่ข้าพระองค์เถิด. เพราะเหตุนั้นพราหมณ์นั้นจึงกล่าวว่า สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งนี้ ย่อมกล่าวความหมดจด ด้วยการเห็นและการสดับบ้าง ด้วยศีลและวัตรบ้าง ด้วย มงคลหลายชนิดบ้าง. (ข้าแต่พระผู้มีพระภาค) ผู้นิรทุกข์ สมณพราหมณ์เหล่านั้นเป็นผู้สำรวมแล้ว ประพฤติอยู่ในทิฏฐิ นั้น ได้ข้ามแล้วซึ่งชาติและชราบ้างหรือ? ข้าแต่พระผู้มี พระภาค ข้าพระองค์ขอทูลถามปัญหานั้น. ขอพระองค์ โปรดตรัสบอกปัญหานั้นแก่ข้าพระองค์เถิด.