พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/118/306 307 308 309 310

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 118
ชาติและชราไปได้แล้ว. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ขอทูล ถามปัญหานั้น ขอพระองค์โปรดตรัสบอกปัญหานั้นแก่ข้าพระองค์.
[๓๐๖] คำว่า เยเกจิ ในอุเทศว่า เยเกจิ เม สมณพฺราหฺมณาเส ดังนี้ ความว่า ทั้งปวงโดยกำหนดทั้งปวง ทั้งปวงโดยประการทั้งปวง ไม่เหลือ มีส่วนไม่เหลือ. คำว่า เยเกจิ นี้ เป็นเครื่องกล่าวรวมหมด. ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งเข้าถึงการบวช คือ ถึงพร้อมด้วยการบวช ภายนอกพุทธศาสนานี้ ชื่อว่าสมณะ. ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งอ้างว่าตนมีวาทะเจริญ ชื่อว่าพราหมณ์. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งนี้. คำว่า อิติ ในอุเทศว่า อิจฺจายสฺมา นนฺโท ดังนี้ เป็นบทสนธิ. คำว่า อายสฺมา เป็นเครื่องกล่าวด้วยความรัก. คำว่า นนฺโท เป็นชื่อ ฯลฯ เป็นคำร้องเรียกของพราหมณ์นั้น. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ท่านพระนันทะทูลถามว่า.
[๓๐๗] คำว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยการเห็นและการฟังบ้าง ความว่า ย่อมกล่าว ย่อมพูด ย่อมบอก ย่อมแสดง ย่อมบัญญัติความหมดจด คือ ความหมดจดวิเศษ ความบริสุทธิ์ ความพ้น ความพ้นวิเศษ ความพ้นรอบ ด้วยการเห็นบ้าง ... ด้วยการสดับบ้าง ... ด้วยการเห็นและ การสดับบ้าง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยการเห็นและด้วยการสดับบ้าง.
[๓๐๘] คำว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยศีลและวัตรบ้าง ความว่า ย่อมกล่าว ... ย่อม บัญญัติความหมดจด ... ความพ้นรอบด้วยศีลบ้าง ... ด้วยวัตรบ้าง ... ด้วยทั้งศีลและวัตรบ้าง เพราะ ฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยศีลและวัตรบ้าง.
[๓๐๙] คำว่า ย่อมกล่าวความหมดจดด้วยมงคลหลายชนิด ความว่าย่อมกล่าว ... ย่อม บัญญัติด้วยมงคลคือวัตรและความตื่นข่าวมากอย่าง เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมกล่าวความหมดจด ด้วยมงคลหลายชนิด.
[๓๑๐] คำว่า เต เจ ในอุเทศว่า เต เจ มุนี พฺรูสิ อโนฆติณฺเณ ดังนี้ ความว่า พวกสมณพราหมณ์ผู้มีทิฏฐิเป็นคติ ญาณท่านกล่าวว่า โมนะ ในบทว่า มุนี. ฯลฯ พระผู้มีพระภาค นั้น ล่วงแล้วซึ่งราคาทิธรรมเป็นเครื่องข้อง และตัณหาเป็นดังว่าข่าย เป็นมุนี. คำว่า ย่อมตรัสว่า ... ข้ามโอฆะไปไม่ได้แล้ว ความว่า ข้ามไม่ได้แล้ว คือ ข้ามขึ้น ไม่ได้แล้ว ข้ามล่วงไม่ได้แล้ว ก้าวล่วงไม่ได้แล้ว เป็นไปล่วงไม่ได้แล้วซึ่งกามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฏฐิโอฆา อวิชชาโอฆะ วนเวียนอยู่ภายในชาติชราและมรณะ วนเวียนอยู่ภายในทางสงสาร