พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/121/403 404 405 406
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๔๐๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก
ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความ อยู่ไม่สำราญ ธรรม ๓ อย่างเป็น
ไฉน ฯ
๑. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือความโลภแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลกย่อมเกิด ขึ้นเพื่อไม่เป็น
ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
๒. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือโทสะความประทุษร้ายแล เมื่อเกิดขึ้น แก่โลก ย่อมเกิด
ขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ สำราญ ฯ
๓. ดูกรมหาบพิตร ธรรมคือโมหะความหลงแล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อ
ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
ดูกรมหาบพิตร ธรรม ๓ อย่างนี้แล เมื่อเกิดขึ้นแก่โลก ย่อมเกิดขึ้น เพื่อไม่เป็น
ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่สำราญ ฯ
[๔๐๔] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้
ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
โลภะ โทสะ และโมหะ อันบังเกิดแก่ตนย่อมเบียดเบียน บุรุษ ผู้มีใจ
เป็นบาป ดุจผลของตนเบียดเบียนไม้เต่ารั้งฉะนั้น ฯ
อิสสัตถสูตรที่ ๔
[๔๐๕] สาวัตถีนิทาน ฯ
พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กราบทูล พระผู้มีพระภาค
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทาน บุคคลพึงให้ในที่ไหนหนอแล ฯ
พ. ดูกรมหาบพิตร จิตย่อมเลื่อมใสในที่ใด พึงให้ในที่นั้นแล ฯ
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ และทานที่ให้แล้วในที่ไหนจึงมีผลมาก ฯ
[๔๐๖] พ. ดูกรมหาบพิตร ทานพึงให้ในที่ไหนนั่นเป็นข้อหนึ่ง และทาน ที่ให้แล้วใน
ที่ไหนจึงมีผลมาก นั่นเป็นอีกข้อหนึ่ง ดูกรมหาบพิตร ทานที่ให้แล้ว แก่ผู้มีศีลแลมีผลมาก ทาน