พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/122/407 408

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 122
ที่ให้แล้วในผู้ทุศีลหามีผลมากไม่ ดูกรมหาบพิตร และ ด้วยเหตุนั้น อาตมภาพจักย้อนถาม มหาบพิตรในปัญหากรรมข้อนั้นบ้าง มหาบพิตร พอพระทัยอย่างใด พึงพยากรณ์อย่างนั้น ฯ
[๔๐๗] มหาบพิตรจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ณ ที่นี้การยุทธพึงปรากฏเฉพาะ หน้าแด่พระองค์ สงครามพึงปะทะกัน ถ้าว่ากุมารที่เป็นกษัตริย์ผู้ไมได้ศึกษา ไม่ได้หัดมือ ไม่ได้ รับความชำนาญ ไม่ได้ประลองการยิง เป็นคน ขลาด เป็นคนมักสั่น เป็นคนมักสะดุ้ง เป็นคน มักวิ่งหนี พึงมาอาสาไซร้ พระองค์ พึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือ และพระองค์พึงทรงต้องการบุรุษ เช่นนั้นหรือ ฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่พึงชุบเลี้ยงบุรุษเช่นนั้น และ ข้าพระองค์ไม่ต้องการ บุรุษเช่นนั้นเลย ฯ พ. ถ้าว่า กุมารที่เป็นพราหมณ์ ผู้ไม่ได้ศึกษา ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯถ้าว่ากุมาร ที่เป็นแพศย์ ผู้ไม่ได้ศึกษา ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่ากุมารที่เป็น ศูทร ผู้ไม่ได้ศึกษา ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ พระองค์พึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือ และพระองค์พึงทรงต้องการบุรุษเช่นนั้น หรือ ฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่พึงชุบเลี้ยงบุรุษนั้น และข้า พระองค์ไม่พึง ต้องการบุรุษเช่นนั้นแล ฯ
[๔๐๘] พ. ดูกรมหาบพิตร พระองค์จะทรงสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ณ ที่นี้การ ยุทธพึงปรากฏแก่พระองค์ สงครามพึงปะทะกัน ถ้าว่า กุมารที่เป็นกษัตริย์ ผู้ศึกษาดีแล้ว ได้ หัดมือแล้ว ได้รับความชำนาญแล้ว ได้ประลองการยิงมาแล้วไม่เป็นคนขลาด ไม่เป็นคนสั่น ไม่เป็นคนสะดุ้ง ไม่เป็นคนมักวิ่งหนี พึงมา อาสาไซร้ พระองค์พึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือ และพระองค์พึงทรงมีพระประสงค์ บุรุษเช่นนั้นหรือ ฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันพึงชุบเลี้ยงบุรุษนั้น และหม่อมฉันพึงต้องการบุรุษ เช่นนั้น ฯ พ. ถ้าว่ากุมารที่เป็นพราหมณ์ ผู้ศึกษาดีแล้ว ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่า กุมาร ที่เป็นแพศย์ ผู้ศึกษาดีแล้ว ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่า กุมาร ที่เป็นศูทร ผู้ศึกษาดีแล้ว ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ พระองค์จะพึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษ นั้นหรือ และพระองค์จะพึงทรงมีพระประสงค์ บุรุษเช่นนั้นหรือ