พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/123/409 410

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 123
ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันพึงชุบเลี้ยงบุรุษนั้น และหม่อมฉันพึงต้องการบุรุษ เช่นนั้น ฯ
[๔๐๙] พ. ฉันนั้นนั่นแล มหาบพิตร แม้หากว่า กุลบุตรออกจากเรือน ตระกูลไรๆ เป็นผู้บวชหาเรือนมิได้ และกุลบุตรนั้น เป็นผู้มีองค์ ๕ อันละได้ แล้ว เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยองค์ ๕ ทานที่ให้แล้วในกุลบุตรนั้น ย่อมเป็นทานมีผลมาก องค์ ๕ อันกุลบุตรนั้นละได้แล้วเป็นไฉน กามฉันทะอันกุลบุตรนั้นละ ได้แล้ว พยาบาทอันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว ถีนมิทธะอันกุลบุตรนั้น ละได้แล้ว อุทธัจจกุกกุจจะอันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว วิจิกิจฉาอันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว องค์ ๕ เหล่านี้อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว กุลบุตรนั้นเป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ เป็นไฉน กุลบุตรนั้น เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยศีลขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบ แล้วด้วยสมาธิขันธ์อัน เป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยปัญญาขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบ แล้วด้วยวิมุตติขันธ์อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยวิมุตติญาณทัสสนขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ กุลบุตรนั้น เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยองค์ ๕ เหล่านี้ ทานที่ให้แล้วในกุลบุตร ผู้มีองค์ ๕ อันละ ได้แล้ว ผู้ประกอบแล้วด้วยองค์ ๕ ดังนี้ ย่อมมีผลมาก ฯ
[๔๑๐] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้ จบลงแล้ว จึงได้ ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า ศิลปะการยิงแม่น กำลังเข้มแข็ง และความกล้าหาญมีอยู่ ในชายหนุ่ม ผู้ใด พระราชาผู้ทรงพระประสงค์ด้วยการยุทธพึงทรงชุบเลี้ยงชายหนุ่ม เช่นนั้น ไม่พึงทรงชุบเลี้ยงชายหนุ่มผู้ไม่กล้าหาญ เพราะเหตุแห่งชาติ ฉันใด ฯ ธรรมะคือขันติ และโสรัจจะ ตั้งอยู่แล้วในบุคคลใด บุคคลพึงบูชา บุคคลนั้นผู้มีปัญญา มีความประพฤติเยี่ยงพระอริยะแม้มีชาติทราม ฉันนั้นเหมือนกัน ฯ พึงสร้างอาศรมอันเป็นที่รื่นรมย์ ยังผู้พหูสูตทั้งหลายให้สำนักอยู่ ณ ที่นั้น พึงสร้างบ่อน้ำไว้ในป่าที่กันดารน้ำ และสะพานในที่เป็นหล่ม พึงถวาย ข้าว น้ำ ของเคี้ยว ผ้า และเสนาสนะในท่านผู้ซื่อตรงทั้งหลาย ด้วยน้ำใจอันผ่องใสเมฆมีสายฟ้าแลบแปลบปลาบ (เมฆอันประกอบ