พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/127/152 153

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
เล่ม 11
หน้า 127

[๑๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเคยเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ภพก่อน กำเนิดก่อน เมื่อตรวจดูมหาชนที่ควรสงเคราะห์ ย่อมรู้จักชนที่เสมอกัน รู้จักเองรู้จักบุรุษ รู้จักบุรุษพิเศษ หยั่งทราบว่าบุคคลนี้ควรแก่สักการะนี้ บุคคลนี้ควรแก่สักการะนี้ ดังนี้ แล้วทำกิจเป็นประโยชน์อัน พิเศษ ในบุคคลนั้นๆ ในกาลก่อนๆตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะ กรรมนั้น อันตนทำ สั่งสม พอกพูน ไพบูลย์ ฯลฯ ครั้นจุติจากสวรรค์ นั้นแล้วมาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อมได้เฉพาะซึ่งมหาปุริสลักษณะ ๒ ประการนี้ คือ มีพระกาย เป็นปริมณฑลดังว่านิโครธพฤกษ์ ๑ เมื่อทรงยืนอยู่ไม่ต้องทรงน้อมพระกายลง ย่อมลูบคลำ พระชาณุทั้ง ๒ ด้วยฝ่ายพระหัตถ์ทั้ง ๒ ได้ ๑ พระมหาบุรุษสมบูรณ์ด้วยลักษณะทั้ง ๒ นั้น ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ฯลฯเมื่อเป็นพระราชาจะได้อะไร เมื่อเป็น พระราชาจะได้รับผลข้อนี้ คือ เป็นผู้มั่งคั่งมีทรัพย์มาก มีโภคะมาก มีทองและเงินมาก มีเครื่อง อุปกรณ์น่าปลื้มใจมากมีทรัพย์และข้าวเปลือกมาก มีคลังเต็มบริบูรณ์ ถ้าพระมหาบุรุษนั้นออก จากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอัน เปิดแล้วในโลก เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้อะไร เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าจะได้รับผลข้อนี้ คือ เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก ทรัพย์ของพระองค์นั้นคือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ สุตะ จาคะ ปัญญา เป็นทรัพย์อย่างหนึ่งๆพระผู้มีพระภาคตรัสเนื้อความนี้ไว้ พระโบราณ กเถระทั้งหลายจึงกล่าวคาถาประพันธ์นี้ ในพระลักษณะเหล่านั้นว่า
[๑๕๓] พระมหาบุรุษ เมื่อตรวจดูมหาชนที่ควรสงเคราะห์ พิจารณาแล้ว สอดส่องแล้ว คิดแล้วหยั่งทราบว่า บุคคลนี้ควรแก่สักการะนี้ ดังนี้แล้ว ทำกิจพิเศษของบุรุษในบุคคลนั้นๆ ในกาลก่อน ก็แหละพระมหาบุรุษ ทรงยืนตรงไม่ต้องน้อมพระกายลง ก็ถูกต้องพระชาณุทั้ง ๒ ด้วย พระกรทั้ง ๒ ได้ และมีพระกายเป็นปริมณฑลดังว่า ต้นนิโครธที่งอกงาม บนแผ่นดินด้วยผลกรรมที่ประพฤติมาดีแล้ว ยังเป็นส่วนเหลือ มนุษย์ทั้งหลาย ที่มีปัญญาอันละเอียด รู้จักลักษณะเป็นนิมิตมากอย่าง ทำนายว่า พระราชโอรสนี้เป็นพระดรุณกุมาร ยังทรงพระเยาว์ ย่อมได้ เฉพาะซึ่งลักษณะอันคู่ควรแก่คฤหัสถ์มากอย่าง กามโภคะอันสมควรแก่ คฤหัสถ์เป็นอันมาก ย่อมมีแก่พระราชกุมารผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ใน