พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/129/423 424 425
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๔๒๓] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปใคร่จะให้เกิดความกลัว ความครั่นคร้าม ขนลุกขนพอง
แด่พระผู้มีพระภาค จึงเข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ แล้ว แสดงเพศต่างๆ หลากหลาย
ทั้งที่งามทั้งที่ไม่งาม ในที่ไม่ไกลแต่พระผู้มีพระภาค ฯ
[๔๒๔] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า นี่มารผู้มีบาป ดังนี้ จึงตรัสกะมารผู้มี
บาปด้วยพระคาถาทั้งหลายว่า
ท่านจำแลงเพศทั้งที่งามทั้งที่ไม่งาม ท่องเที่ยวอยู่ตลอดกาลอันยืดยาว
นาน มารผู้มีบาปเอ๋ย ไม่พอที่ท่านจะทำการจำแลงเพศนั้นเลย ดูกรมาร
ผู้กระทำซึ่งที่สุด ตัวท่านเป็นผู้ที่เรากำจัดเสียได้แล้ว ฯ
และชนเหล่าใดสำรวมดีแล้ว ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ ชน
เหล่านั้น ย่อมไม่เป็นผู้ตกอยู่ในอำนาจของมารชนเหล่านั้น ย่อมไม่
เป็นผู้เดินตามหลัง ฯ
ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาค ทรงรู้จักเรา พระสุคตทรงรู้จัก
เรา จึงได้อันตรธานไปในที่นั้นเอง ฯ
ปฐมปาสสูตรที่ ๔
[๔๒๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี ณ ที่
นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯ
ภิกษุเหล่านั้นได้ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความหลุดพ้นอย่างยอด เยี่ยมเราบรรลุแล้ว
ความหลุดพ้นอย่างยอดเยี่ยม เรากระทำให้แจ้งแล้ว เพราะ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย
เพราะการตั้งความเพียรไว้ชอบโดยแยบคาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เธอทั้งหลายก็จงบรรลุซึ่งความ
หลุดพ้นอย่างยอดเยี่ยม จง กระทำให้แจ้งซึ่งความหลุดพ้นอย่างยอดเยี่ยม เพราะการกระทำไว้ในใจ
โดยแยบคายเพราะการตั้งความเพียรไว้ชอบโดยแยบคายเถิด ฯ