พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/130/232
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
ข้อที่พระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร เรากล่าวชนบทโดยส่วน ๒ คือ ที่ควร
เสพอย่าง ๑ ที่ไม่ควรเสพอย่าง ๑ นั่น พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยอะไรตรัสแล้ว ฯลฯ ข้อที่พระผู้มี
พระภาคตรัสดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร เรากล่าวชนบทโดยส่วน ๒ คือ ที่ควรเสพอย่าง ๑ ที่ไม่
ควรเสพอย่าง ๑ นั่น พระผู้มีพระภาค ทรงอาศัยเนื้อความดังนี้ตรัสแล้ว ฯ
ข้อที่พระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร เรากล่าวบุคคลโดยส่วน ๒ คือ ที่ควร
เสพอย่าง ๑ ที่ไม่ควรเสพอย่าง ๑ นั่น พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยอะไรตรัสแล้ว ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ เมื่อเสพบุคคลเช่นใด อกุศลธรรมย่อมเจริญยิ่งกุศลธรรมย่อมเสื่อมไป บุคคลเช่นนี้
ไม่ควรเสพ และเมื่อเสพบุคคลเช่นใดอกุศลธรรมย่อมเสื่อมไป กุศลธรรมย่อมเจริญยิ่ง
บุคคลเช่นนี้ควรเสพ ข้อที่ พระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร เรากล่าวบุคคลโดยส่วน ๒
คือ ที่ควรเสพอย่าง ๑ ที่ไม่ควรเสพอย่าง ๑ นั่น พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยเนื้อความดังนี้
ตรัสแล้ว
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมบรรยายที่พระผู้มีพระภาคตรัสโดยย่อ มิได้ ทรงจำแนก
เนื้อความโดยพิสดารนี้แล ข้าพระองค์ทราบเนื้อความได้โดยพิสดารอย่างนี้ ฯ
[๒๓๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรสารีบุตร ดีแล้วๆ ธรรมบรรยายที่เรากล่าว
โดยย่อ มิได้จำแนกเนื้อความโดยพิสดารนี้ เธอทราบเนื้อความได้โดยพิสดารอย่างนี้ถูกแล้ว
ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร เรากล่าวจีวรโดยส่วน ๒ คือ ที่ควรเสพอย่าง ๑
ที่ไม่ควรเสพอย่าง ๑ นั่น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ดูกรสารีบุตร เมื่อเสพจีวรเช่นใด อกุศล
ธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อมไป จีวรเช่นนี้ ไม่ควรเสพ และเมื่อเสพจีวรเช่นใด
อกุศลธรรมย่อมเสื่อมไป กุศลธรรมย่อมเจริญยิ่ง จีวรเช่นนี้ควรเสพ ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ดูกร
สารีบุตร เรากล่าวจีวร โดยส่วน ๒ คือ ที่ควรเสพอย่าง ๑ ที่ไม่ควรเสพอย่าง ๑ นั่น เราอาศัย
เนื้อความดังนี้ กล่าวแล้ว ฯ
ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร เรากล่าวบิณฑบาตโดยส่วน ๒ คือ ที่ควรเสพอย่าง ๑
ที่ไม่ควรเสพอย่าง ๑ นั่น เราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ฯลฯ ข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า ดูกรสารีบุตร