พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/131/474

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 131
วางไว้ทั้งสองข้าง ตามประทีปน้ำมันไว้สว่างไสว ปชาบดีสี่นางพึงบำรุงบำเรอด้วยวิธีที่น่า ชอบอกชอบใจ ดูกรกุมาร ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น อยู่เป็นสุขหรือหาไม่ หรือท่านมีความคิดเห็นเป็นไฉนในเรื่องนี้ ฯ ห. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น พึงอยู่เป็นสุข และเขาเป็นคน หนึ่งในจำนวนคนที่อยู่เป็นสุขในโลก ฯ พ. ดูกรกุมาร ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดี พึงเกิด ความเร่าร้อนที่เป็นไปทางกายหรือทางจิต ซึ่งเกิดแต่ราคะอันเป็นเหตุทำให้ผู้ที่ถูกมันเผาอยู่เป็น ทุกข์มิใช่หรือ ห. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ พ. ดูกรกุมาร คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น ถูกความเร่าร้อนอันเกิดแต่ราคะใดแผด เผาอยู่ จึงอยู่เป็นทุกข์ ราคะนั้นตถาคตละได้เด็ดขาดแล้ว ถอนรากขึ้นแล้ว ทำให้เหมือนตาล ยอดด้วน ไม่ให้มีไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดาเพราะฉะนั้น เราจึงอยู่เป็นสุข ดูกรกุมาร ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉนคฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น พึงเกิดความเร่าร้อนที่เป็นไป ทางกายหรือทางจิต ซึ่งเกิดแต่โทสะ ฯลฯ ซึ่งเกิดแต่โมหะ อันเป็นเหตุทำให้ผู้ที่ถูกมันเผาอยู่ เป็นทุกข์มิใช่หรือ ฯ ห. อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ พ. ดูกรกุมาร คฤหบดีหรือบุตรคฤหบดีนั้น ถูกความเร่าร้อนอันเกิดแต่โทสะ ฯลฯ เกิดแต่โมหะใดแผดเผาอยู่ จึงอยู่เป็นทุกข์ โทสะ โมหะนั้นตถาคตละได้เด็ดขาดแล้ว ถอน รากขึ้นแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ไม่ให้มีไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้น เราจึงอยู่เป็นสุข ฯ พราหมณ์ผู้ดับกิเลสได้แล้ว อยู่สบายทุกเมื่อแล ผู้ใดไม่ติดอยู่ในกาม ผู้นั้นเป็นผู้เยือกเย็นหมดอุปธิ ตัดธรรมชาติเครื่องมาข้องเสียทุกอย่าง ปราบปรามความกระวนกระวายในหทัยได้ เข้าไปสงบแล้ว ถึงความ สงบใจอยู่สบาย ฯ