พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/136/133
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ทรงรู้จักกาล ๑ ทรงรู้จักบริษัท ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระราชโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าจักรพรรดิ
ทรงประกอบด้วยองค์ ๕ ประการนี้แล ย่อมทรงยังจักรที่พระราชบิดาทรงให้เป็นไปแล้วให้เป็น
ไปตามโดยธรรมทีเดียว จักรนั้นย่อมเป็นจักรอันมนุษย์ผู้เป็นข้าศึกใดๆ จะต้านทานมิได้ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสารีบุตรประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมยังธรรมจักรชั้นเยี่ยมที่ตถาคตให้เป็นไปแล้ว ให้เป็นไปตามโดยชอบเทียว ธรรมจักรนั้นย่อม
เป็นจักรอันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหมหรือใครในโลก จะคัดค้านไม่ได้
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ พระสารีบุตรในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้รู้จักผล ๑ รู้จักเหตุ ๑ รู้จัก
ประมาณ ๑ รู้จักกาล ๑ รู้จักบริษัท ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสารีบุตรประกอบด้วยธรรม ๕
ประการนี้แลย่อมยังธรรมจักรชั้นเยี่ยม ที่ตถาคตให้เป็นไปแล้วให้เป็นไปตามโดยชอบเทียว
ธรรมจักรนั้นย่อมเป็นจักรอันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลก
จะคัดค้านไม่ได้ ฯ
จบสูตรที่ ๒
๓. ราชสูตร
[๑๓๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงดำรงอยู่ใน
ธรรม เป็นพระธรรมราชา แม้พระองค์ใดพระเจ้าจักรพรรดิแม้พระองค์นั้น ย่อมไม่ทรงยังจักรให้
เป็นไป ณ ประเทศที่ไม่มีพระราชา เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญก็ใครเป็นพระราชาของพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงดำรงอยู่ในธรรม เป็นพระธรรม
ราชาพระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ธรรมซิ ภิกษุ แล้วจึงตรัสต่อไปว่า ดูกรภิกษุ พระเจ้า
จักรพรรดิผู้ทรงดำรงอยู่ในธรรม เป็นพระธรรมราชาในโลกนี้ ทรงอาศัยธรรมนั่นแหละ ทรง
สักการะ เคารพ นอบน้อม ธรรม ทรงมีธรรมเป็นธง มีธรรมเป็นยอด มีธรรมเป็นใหญ่
ย่อมทรงจัดแจงการรักษา ป้องกัน คุ้มครองที่เป็นธรรมในชนภายใน ฯ
อีกประการหนึ่ง พระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงดำรงอยู่ในธรรม เป็นพระธรรมราชา ฯลฯ มี
ธรรมเป็นใหญ่ ย่อมทรงจัดแจงการรักษา ป้องกัน คุ้มครองที่เป็นธรรม ในกษัตริย์เหล่าอนุยนต์
[พระราชวงศานุวงศ์] ในหมู่ทหาร พราหมณ์คฤหบดี ชาวนิคมชนบท สมณพราหมณ์ เนื้อ