พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/139/457 458 459 460 461
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๔๕๗] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
พระสัมพุทธเจ้ามีปรกติอนุเคราะห์ด้วยจิตอันเกื้อกูล ทรงพร่ำสอนผู้อื่น
ด้วยสิ่งใด ตถาคตมีจิตหลุดพ้นจากความยินดียินร้ายในสิ่งนั้นแล้ว ฯ
ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเรา พระสุคตทรง
รู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ
มานสสูตรที่ ๕
[๔๕๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิก
เศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
[๔๕๙] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้
กล่าวกะพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
บ่วงใดมีใจไปได้ในอากาศ กำลังเที่ยวไป ข้าพระองค์จักคล้องพระองค์
ไว้ด้วยบ่วงนั้น สมณะ ท่านไม่พ้นเรา ฯ
[๔๖๐] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
เราหมดความพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นของ
รื่นรมย์ใจแล้ว แน่ะมาร เรากำจัดท่านได้แล้ว ฯ
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเรา พระสุคตทรง
รู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ
ปัตตสูตรที่ ๖
[๔๖๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิก
เศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงยังภิกษุทั้งหลายให้เห็นแจ้ง ให้สมา ทาน ให้อาจหาญ
ให้ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาเกี่ยวด้วยอุปาทานขันธ์ ๕ ก็ภิกษุ เหล่านั้นทำในใจให้สำเร็จประโยชน์
น้อมนึกมาด้วยความเต็มใจ เงี่ยโสตลงสดับธรรมอยู่ ฯ