พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/148/393 394 395
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้า ข้าพระองค์ได้ฟังแล้วว่าพระองค์
ไม่มีความใคร่ในกาม ล่วงพ้นห้วงกิเลสแล้ว จึงมาเพื่อจะ
ทูลถามพระองค์ผู้ไม่มีกาม. ข้าแต่พระองค์ผู้มีญาณดังดวงตา
อันเกิดพร้อมกับความตรัสรู้ ขอพระองค์จงตรัสบอกสันติบท.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกธรรมอันแท้
จริงนั้นแก่ข้าพระองค์.
[๓๙๓] พระผู้มีพระภาคทรงมีเดช ทรงประกอบด้วยเดช ทรง
ครอบงำกามทั้งหลายแล้วดำเนินไป เหมือนพระอาทิตย์
อันมีแสงสว่าง ประกอบด้วยเดช ย่อมส่องแสงปกคลุม
ทั่วปฐพี. ขอพระองค์ผู้มีปัญญากว้างขวางดุจแผ่นดิน โปรด
ตรัสบอกธรรมเครื่องละชาติและชราในภพนี้ ที่ข้าพระองค์
พึงทราบได้ แก่ข้าพระองค์ผู้มีปัญญาน้อยเถิด.
[๓๙๔] คำว่า ภควา ในอุเทศว่า ภควา หิ กาเม อภิภุยฺย อิริยติ ดังนี้ เป็น
เครื่องกล่าวโดยเคารพ ฯลฯ คำว่า ภควา นี้ เป็นสัจฉิกาบัญญัติ.
กาม ในคำว่า กาเม โดยอุทานมี ๒ คือ วัตถุกาม ๑ กิเลสกาม ๑ ฯลฯ เหล่านี้
ท่านกล่าวว่า วัตถุกาม. ฯลฯ เหล่านี้ท่านกล่าวว่า กิเลสกาม. พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดรู้วัตถุกาม
ทรงละ ทรงครอบงำ ทรงปกคลุม ทรงท่วมทับ ทรงกำจัด ทรงย่ำยีแล้ว ซึ่งกิเลสกาม
เสด็จเที่ยวไป ดำเนินไป เป็นไป รักษา บำรุง ทรงเยียวยา เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า พระผู้มีพระภาค
ทรงครอบงำกามทั้งหลายแล้วดำเนินไป.
[๓๙๕] พระอาทิตย์ท่านกล่าวว่า อาทิจฺโจ ในอุเทศว่า อาทิจฺโจว ปฐวี เตชี เตชสา
ดังนี้.
ชรา ท่านกล่าวว่า ปฐพี. พระอาทิตย์มีแสงสว่าง ประกอบด้วยเดช คือ รัศมีส่อง
แผ่ปกคลุมครอบปฐพี ให้ร้อน เลื่อนลอยไปในอากาศทั่วไปกำจัดมืด ส่องแสงสว่างไปในอากาศ
อันว่างเป็นทางเดิน ฉันใด พระผู้มีพระภาคทรงมีเดชคือพระญาณ ประกอบด้วยเดชคือพระญาณ
ทรงกำจัดแล้วซึ่งสมุทัยแห่งอภิสังขารทั้งปวง ฯลฯ ความมืดคือกิเลส อันธการคืออวิชชา ทรง
แสดงแสงสว่างคือญาณ ทรงกำหนดรู้ซึ่งวัตถุกาม ทรงละ ทรงครอบงำ ทรงปกคลุม