พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/158/421 422 423 424
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
[๔๒๑] คำว่า เตสํ ในอุเทศว่า เตสํ ตฺวํ สาธุ วิยากโรหิ ดังนี้ คือ กษัตริย์
พราหมณ์ แพศย์ ศูทร คฤหัสถ์ บรรพชิต เทวดา มนุษย์เหล่านั้น พราหมณ์นั้นย่อมทูล
พระผู้มีพระภาคว่า ตุวํ.
คำว่า ขอพระองค์ทรงพยากรณ์ด้วยดี คือ ขอพระองค์ตรัสบอก ... ขอทรงประกาศด้วยดี
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ขอพระองค์ทรงพยากรณ์ด้วยดี.
[๔๒๒] คำว่า เพราะว่าธรรมนั้นอันพระองค์ทรงทราบแล้วอย่างแท้จริง ความว่า เพราะ
ว่าธรรมนั้นอันพระองค์ทรงทราบ ทรงรู้ ทรงเทียบเคียง ทรงพิจารณา เจริญ ให้แจ่มแจ้งแล้ว
อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เพราะว่าธรรมนั้นอันพระองค์ทรงทราบแล้วอย่างแท้จริง.
เพราะเหตุนั้น พราหมณ์นั้นจึงกล่าวว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้กล้า ชนต่างๆ มาแต่ชนบททั้งหลาย ประชุม
กันแล้ว หวังอยู่ซึ่งพระดำรัสของพระองค์. ขอพระองค์ทรง
พยากรณ์ด้วยดีแก่ชนเหล่านั้น เพราะว่าธรรมนั้นอันพระองค์
ทรงทราบแล้วอย่างแท้จริง.
[๔๒๓] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรภัทราวุธะ) หมู่สัตว์พึง
นำเสียซึ่งตัณหาเครื่องยึดถือทั้งหมด ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ
หรือแม้ชั้นกลางส่วนกว้าง. เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมเข้า
ไปถือรูปาทิขันธ์ใดๆ ในโลก มารย่อมไปตามสัตว์ด้วย
อำนาจอภิสังขาร คือ กรรมนั้นนั่นแล.
[๔๒๔] ตัณหาในรูป ตรัสว่า ตัณหาเครื่องยึดถือ ในอุเทศว่า อาทานตณฺหํ วินเยถ
สพฺพํ ดังนี้.
เหตุไร ตัณหาในรูปจึงตรัสว่า ตัณหาเครื่องยึดถือ. เพราะตัณหานั้น สัตว์ทั้งหลายจึง
ยึดถือ เข้าไปยึดถือ ยึดไว้ จับต้อง ถือมั่น ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ คติ
อุปบัติ ปฏิสนธิ ภพ สงสาร วัฏฏะ เพราะเหตุนั้น ตัณหาในรูปจึงตรัสว่า ตัณหาเครื่องยึดถือ.
คำว่า พึงนำเสียซึ่งตัณหาเครื่องยึดถือทั้งหมด ความว่า พึงนำเสีย ปราบเสีย ละเสีย
บรรเทาเสีย พึงทำให้สิ้นสุด ให้ถึงความไม่มี ซึ่งตัณหาเครื่องยึดถือทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า
พึงนำเสียซึ่งตัณหาเครื่องยึดถือทั้งหมด.