พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/206/512
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
[๕๑๒] ๗๓. สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ที่โฆสิตาราม ใกล้กรุงโกสัมพี ครั้งนั้นแล
คฤหบดีผู้เป็นสาวกของอาชีวกคนหนึ่ง เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ อภิวาทแล้ว นั่งลง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ถามว่า ข้าแต่ท่านพระอานนท์ คนพวกไหนเล่า ได้กล่าว
ธรรมไว้ดีแล้ว พวกไหนปฏิบัติดีแล้วในโลก พวกไหนดำเนินไปดีแล้วในโลก ท่านพระ
อานนท์กล่าวว่าดูกรคฤหบดี ถ้าเช่นนั้นเราจักย้อนถามท่านในข้อนี้ ท่านชอบใจอย่างใด ก็
พึงกล่าวแก้อย่างนั้น ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คนพวกใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ
แสดงธรรมเพื่อละโทสะ แสดงธรรมเพื่อละโมหะ คนพวกนั้นกล่าวธรรมดีแล้วหรือหาไม่ หรือ
ว่าในข้อนี้ท่านมีความเห็นอย่างไร ฯ
ค. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คนพวกใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ แสดงธรรมเพื่อละโทสะ
แสดงธรรมเพื่อละโมหะ คนพวกนั้นกล่าวธรรมดีแล้ว ในข้อนี้ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างนี้ ฯ
อา. ดูกรคฤหบดี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คนพวกใดปฏิบัติเพื่อละราคะ
ปฏิบัติเพื่อละโทสะ ปฏิบัติเพื่อละโมหะ คนพวกนั้นปฏิบัติดีแล้วในโลกใช่หรือไม่ หรือว่าใน
ข้อนี้ท่านมีความเห็นอย่างไร ฯ
ค. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คนพวกใดปฏิบัติเพื่อละราคะ ปฏิบัติเพื่อละโทสะ ปฏิบัติเพื่อ
ละโมหะ คนพวกนั้นปฏิบัติดีแล้วในโลก ในข้อนี้ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างนี้ ฯ
อา. ดูกรคฤหบดี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คนพวกใดละราคะได้แล้ว
ตัดรากขาดแล้ว ทำให้ไม่มีที่ตั้งดุจตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา
คนพวกใดละโทสะได้แล้ว ฯลฯ คนพวกใดละโมหะได้แล้ว ตัดรากขาดแล้ว ทำไม่ให้มีที่ตั้งดุจ
ตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดา คนพวกนั้นดำเนินไปดีแล้วใน
โลกใช่หรือไม่หรือว่าในข้อนี้ท่านมีความเห็นอย่างนี้ ฯ
ค. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ คนพวกใดละราคะได้แล้ว ตัดรากขาดแล้วทำให้ไม่มีที่ตั้งดุจตาล
ยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดาคนพวกใดละโทสะได้แล้ว ฯลฯ คน
พวกใดละโมหะได้แล้ว ตัดรากขาดแล้วทำไม่ให้มีที่ตั้งดุจตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิด
ขึ้นอีกต่อไปเป็นธรรมดาคนพวกนั้นดำเนินไปดีแล้วในโลก ในข้อนี้ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างไร ฯ
อา. ดูกรคฤหบดี ข้อนี้ท่านได้กล่าวแก้แล้วว่า คนพวกใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ
แสดงธรรมเพื่อละโทสะ แสดงธรรมเพื่อละโมหะ คนพวกนั้นกล่าวธรรมดีแล้ว ข้อนี้ท่านได้