พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/208/514

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
เล่ม 20
หน้า 208
นั้นแล เจ้ามหานามศากยะเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ทรงถวายบังคมพระผู้มี พระภาคแล้ว ประทับนั่ง ณที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นานมาแล้ว ที่ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงธรรมที่พระองค์ทรงแสดงอย่างนี้ว่า ญาณเกิดแก่ผู้มีใจเป็นสมาธิ หาเกิดแก่ผู้ที่มีใจไม่เป็นสมาธิไม่ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมาธิเกิดก่อน ญาณเกิดทีหลัง หรือ ว่าญาณเกิดก่อน สมาธิเกิดทีหลัง ลำดับนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้มีความดำริว่า พระผู้มี พระภาคทรงเป็นไข้ หายจากความไข้ไม่นานก็เจ้ามหานามศากยะนี้ทูลถามปัญหาที่ลึกซึ้งกะพระ ผู้มีพระภาค ถ้ากระไร เราควรนำเอาเจ้ามหานามศากยะหลีกไปในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วแสดง ธรรมครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ จับพระพาหาเจ้ามหานามศากยะนำหลีกไป ณ ที่ควรส่วนข้าง หนึ่ง แล้วกล่าวกะเจ้ามหานามศากยะว่า ดูกรมหานามะ พระผู้มีพระภาคตรัสศีลที่เป็นของพระ เสขะไว้ก็มี ตรัสศีลที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มีตรัสสมาธิที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี ตรัสสมาธิ ที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มีตรัสปัญญาที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี ตรัสปัญญาที่เป็นของพระอเสขะ ไว้ก็มีดูกรมหานามะ มีศีลที่เป็นของพระเสขะเป็นไฉน ดูกรมหานามะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกรมหานามะนี้เรียกว่า ศีลที่เป็น ของพระเสขะ ดูกรมหานามะ ก็สมาธิที่เป็นของพระเสขะเป็นไฉน ดูกรมหานามะ ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม ฯลฯ เข้าจตุตถฌานอยู่ ดูกรมหานามะ นี้เรียกว่าสมาธิที่เป็นของพระ เสขะ ดูกรมหานามะ ก็ปัญญาที่เป็นของพระเสขะเป็นไฉน ดูกรมหานามะ ภิกษุในธรรม วินัยนี้ รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ดูกรมหานามะ นี้เรียกว่า ปัญญาที่เป็นของพระเสขะ ฯ ดูกรมหานามะ พระอริยสาวกนั้นแล เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลอย่างนี้ ถึงพร้อมด้วย ปัญญาอย่างนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้น ไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ดูกรมหานามะ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสศีลที่เป็น ของพระเสขะไว้ก็มี ตรัสศีลที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี ตรัสสมาธิที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี ตรัสสมาธิที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี ตรัสปัญญาที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี ตรัสปัญญาที่เป็น ของพระอเสขะไว้ก็มี ด้วยประการฉะนี้แล ฯ นิคัณฐสูตร
[๕๑๔] ๗๕. สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ ณ กุฏาคารศาลาป่ามหาวัน ใกล้เมือง