พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/239/594 595 596 597

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
เล่ม 16
หน้า 239

[๕๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนสุนัขดุที่เขาขยี้ดี
[ดีหมีดีปลา]ใส่ในจมูก เมื่อ เป็นเช่นนี้ มันก็ยิ่งดุร้ายกว่าเดิมหลายเท่าโดยแท้ ฉันใด พระเจ้าอชาตสัตรูราชกุมารจักเสด็จไป บำรุงเทวทัตทั้งเวลาเย็นเวลาเช้า ด้วยรถประมาณ๕๐๐ คัน และจักรับสั่งให้นำภัตตาหารสำหรับ บูชาไปพระราชทาน ๕๐๐ หม้อเพียงใด เทวทัตก็พึงหวังความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่พึง หวังความเจริญเพียงนั้น ฉันนั้นเหมือนกัน ลาภสักการะและชื่อเสียง ทารุณ ฯลฯ อย่างนี้แล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ จบสูตรที่ ๖ ๗. มาตุสูตร
[๕๙๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาค ... ได้ตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะ และชื่อเสียง ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า ฯ
[๕๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากำหนดใจด้วยใจแล้ว ย่อมรู้บุคคลบางคนในโลกนี้ อย่าง นี้ว่า แม้เพราะเหตุมารดา ท่านผู้นี้ก็ไม่จงใจพูดมุสา แต่สมัยต่อมา เราเห็นเขาถูกลาภสักการะและชื่อ เสียงครอบงำ ย่ำยีจิตแล้ว ก็กล่าวมุสาทั้งที่รู้ได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและชื่อ เสียง ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มี ธรรมอื่นยิ่งไปกว่าภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลาย จักละลาภสักการะและชื่อเสียงที่เกิดขึ้นแล้วเสีย และลาภสักการะและชื่อเสียงที่ยังไม่เกิดขึ้น ก็จักไม่ครอบงำจิตของพวกเราตั้งอยู่ไม่ได้ ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ จบสูตรที่ ๗ ๘. ปิตุสูตร
[๕๙๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาค ... ได้ตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะ