พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/262/653 654 655
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
จิก ทึ้ง หญิงนั้น ได้ยินว่าหญิงนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย หญิงนี้
ได้เป็นหญิงประพฤตินอกใจสามีอยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง ฯลฯ ฯ
จบสูตรที่ ๓
๔. มังคุฬิตถีสูตร
[๖๕๓] ฯลฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลงจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้
เห็นหญิงมีกลิ่นเหม็นน่าเกลียดลอยอยู่ในเวหาส แร้งบ้าง กาบ้างนกตะกรุมบ้าง ต่างก็
โผถลาตามจิก ทึ้ง หญิงนั้น ได้ยินว่า หญิงนั้นส่งเสียงร้องครวญคราง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
หญิงนี้ได้เป็นหญิงแม่มด อยู่ในพระนครราชคฤห์นี้เอง ฯลฯ ฯ
จบสูตรที่ ๔
๕. โอกิลินีสูตร
[๖๕๔] ฯลฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลงมาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็น
หญิงผู้มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มเต็มไปด้วยถ่านเพลิงลอยอยู่ในเวหาส ได้ยินว่า หญิงนั้นส่งเสียงร้อง
ครวญคราง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลายหญิงนี้ได้เป็นพระอัครมเหสี ของพระเจ้ากาลิงค์ นางถูก
ความหึงครอบงำ ได้เอาเตาซึ่งเต็มด้วยถ่านเพลิงเทรดหญิงร่วมผัว ฯลฯ ฯ
จบสูตรที่ ๕
๖. สีสัจฉินนสูตร
[๖๕๕] ฯลฯ ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ตอบว่า เมื่อผมลงมาจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้
เห็นตัวกะพันธ์ไม่มีศีรษะ มีตาและปากอยู่ที่อก ลอยอยู่ในเวหาส แร้งบ้าง กาบ้าง นก
ตะกรุมบ้าง ต่างก็โผถลาตามจิก ทึ้ง ตัวกะพันธ์นั้น ได้ยินว่า ตัวกะพันธ์นั้นส่งเสียงร้อง