พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/264/495 496
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
ข้อที่ ๒... เกิดในสกุลอันสมควรแล้วไปสู่สกุลอันสมควรแล้ว ขอเราพึงอยู่ครองเรือนปราศจาก
หญิงร่วมสามี นี้เป็นฐานะข้อที่ ๓ ... เกิดในสกุลอันสมควรแล้ว ไปสู่สกุลอันสมควรแล้ว อยู่
ครองเรือนปราศจากหญิงร่วมสามี ขอเราพึงมีบุตร นี้เป็นฐานะข้อที่ ๔ ... เกิดในสกุลอัน
สมควรแล้ว ไปสู่สกุลอันสมควรแล้ว อยู่ครองเรือนปราศจากหญิงร่วมสามีมีบุตร ขอเราพึง
ประพฤติครอบงำสามี นี้เป็นฐานะข้อที่ ๕ อันมาตุคามผู้ทำบุญไว้ ได้โดยง่าย ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ฐานะ ๕ ประการนี้แล อันมาตุคามผู้ทำบุญไว้ได้โดยง่าย ฯ
จบสูตรที่ ๘
ปัญจเวรสูตร
[๔๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เป็นผู้สามารถอยู่
ครองเรือน ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ มาตุคามเป็นผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ๑ จากการ
ลักทรัพย์ ๑ จากการประพฤติผิดในกาม ๑ จากการพูดเท็จ ๑ จากการดื่มน้ำเมาคือสุราและ
เมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ
นี้แล เป็นผู้สามารถอยู่ครองเรือน ฯ
จบสูตรที่ ๙
วัฑฒิสูตร
[๔๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวิกาเมื่อเจริญด้วยวัฑฒิธรรม ๕ ประการย่อมเจริญ
ด้วยวัฑฒิธรรมอันเป็นอริยะ เป็นผู้ถือเอาสาระและถือเอาสิ่งประเสริฐของกายไว้ได้ วัฑฒิธรรม
๕ ประการเป็นไฉน คือ อริยสาวิกาย่อมเจริญด้วยศรัทธา ๑ ศีล ๑ สุตะ ๑ จาคะ ๑ ปัญญา ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวิกาเมื่อเจริญด้วยวัฑฒิธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเจริญด้วย
วัฑฒิธรรมอันเป็นอริยะ เป็นผู้ถือเอาสาระและถือเอาสิ่งประเสริฐแห่งกายไว้ได้ ฯ