พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/266/662 663 664
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
โอปัมมสังยุตต์
๑. กูฏาคารสูตร
[๖๖๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล ... พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย กลอน
ทั้งหลายของเรือนยอดทั้งหมดไปรวมที่ยอด ประชุมกันที่ยอด มียอดเป็นที่รวม สิ่งเหล่านั้น
ทั้งหมด ย่อมรวมกันเข้าที่ยอด แม้ฉันใดดูกรภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ก็
ฉันนั้นเหมือนกันแล อกุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีอวิชชาเป็นมูล ประชุมกันที่อวิชชา มีอวิชชา
เป็นที่รวมอกุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมดย่อมรวมกันเข้าที่อวิชชา เพราะเหตุดังนี้นั้น พวกเธอพึง
ศึกษาอย่างนี้ว่า พวกเราจักเป็นผู้ไม่ประมาท ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ
จบสูตรที่ ๑
๒. นขสิขสูตร
[๖๖๓] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ... ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงช้อนฝุ่นเล็กน้อยไว้ที่ปลายพระนขาแล้วตรัส
ถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ฝุ่นเล็กน้อย
ที่เราช้อนขึ้นไว้ที่ปลายเล็บนี้กับมหาปฐพีนี้ อย่างไหนมากกว่ากัน ฯ
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาปฐพีนั่นแหละมากกว่า ฝุ่นเล็กน้อย
ที่พระผู้มีพระภาคทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลายพระนขานี้มีประมาณน้อยย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งการนับ ย่อม
ไม่ถึงแม้ซึ่งการเทียบเคียง ย่อมไม่ถึงแม้ซึ่งส่วนแห่งเสี้ยว เพราะเทียบมหาปฐพีเข้าแล้ว ฝุ่นที่
พระผู้มีพระภาคทรงช้อนขึ้นไว้ที่ปลายพระนขามีประมาณเล็กน้อย ฯ
[๖๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์กลับมาเกิดในหมู่มนุษย์มีประมาณน้อย สัตว์ไปเกิดใน
กำเนิดอื่นจากมนุษย์มีมากกว่ามากทีเดียว ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลาย