พระสุตตันตปิฎกไทย: 16/267/665 666 667
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
พึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ไม่ประมาท ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่าง
นี้แหละ ฯ
จบสูตรที่ ๒
๓. กุลสูตร
[๖๖๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ... ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย สกุลใดสกุล
หนึ่งมีสตรีมาก มีบุรุษน้อย สกุลเหล่านั้นย่อมถูกพวกโจรปล้นได้ง่าย แม้ฉันใด ภิกษุรูปใดรูป
หนึ่งไม่เจริญเมตตาเจโตวิมุติ ไม่กระทำให้มากแล้ว ภิกษุรูปนั้นย่อมถูกพวกอมนุษย์กำจัดได้ง่าย
ฉันนั้นเหมือนกัน ฯ
[๖๖๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สกุลเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีสตรีน้อย มีบุรุษมาก สกุลเหล่านั้น
ย่อมถูกพวกโจรปล้นได้ยาก แม้ฉันใด ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เจริญเมตตาเจโตวิมุติ กระทำให้
มากแล้ว ภิกษุรูปนั้นย่อมเป็นผู้อันอมนุษย์กำจัดได้ยากเพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษา
อย่างนี้ว่า เราจักเจริญเมตตาเจโตวิมุติกระทำให้มาก กระทำให้เป็นประดุจยาน กระทำให้เป็น
ที่ตั้งอาศัย ให้มั่นคงสั่งสม ปรารภด้วยดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้
แหละ ฯ
จบสูตรที่ ๓
๔. โอกขาสูตร
[๖๖๗] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดพึงให้ทานประมาณ ๑๐๐
หม้อใหญ่ในเวลาเช้า ผู้ใดพึงให้ทานประมาณ ๑๐๐ หม้อใหญ่ในเวลาเที่ยง ผู้ใดพึงให้ทานประมาณ
๑๐๐ หม้อใหญ่ในเวลาเย็น ผู้ใดพึงเจริญเมตตาจิตในเวลาเช้า โดยที่สุดแม้เพียงชั่วการหยดน้ำนม
แห่งแม่โค หรือผู้ใดพึงเจริญเมตตาจิตในเวลาเที่ยง โดยที่สุดแม้เพียงชั่วการหยดน้ำนมแห่งแม่