พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/267/499
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
ช. ดูกรท่านผู้มีอายุ ก็มรรคามีอยู่หรือ ปฏิปทามีอยู่หรือ เพื่อกระทำอรหัตนั้นให้แจ้ง ฯ
สา. มีอยู่ ผู้มีอายุ ฯ
ช. ดูกรท่านผู้มีอายุ ก็มรรคาเป็นไฉน ปฏิปทาเป็นไฉน เพื่อกระทำอรหัตนั้นให้แจ้ง ฯ
สา. ดูกรผู้มีอายุ อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ คือ ความเห็นชอบฯลฯ ตั้งใจชอบ
นี้แลเป็นมรรคา เป็นปฏิปทา เพื่อกระทำอรหัตนั้นให้แจ้ง ฯ
ช. ดูกรท่านผู้มีอายุ มรรคาดีนัก ปฏิปทาดีนัก เพื่อกระทำอรหัตนั้นให้แจ้ง และเพียง
พอเพื่อความไม่ประมาท นะท่านสารีบุตร ฯ
[๔๙๙] ดูกรท่านสารีบุตร ใครหนอเป็นธรรมวาทีในโลก ใครเป็นผู้ปฏิบัติดีในโลก
ใครเป็นผู้ไปดีแล้วในโลก ฯ
สา. ดูกรผู้มีอายุ ท่านผู้ใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ท่านผู้นั้นเป็นธรรม
วาทีในโลก อนึ่ง ท่านผู้ใดปฏิบัติเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ท่านผู้นั้นเป็นผู้ปฏิบัติดีในโลก
ราคะ โทสะ โมหะ อันท่านผู้ใดละแล้ว ถอนรากเสียแล้วทำให้เป็นดังตาลยอดด้วน กระทำ
ไม่ให้มี ไม่ให้เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา ท่านผู้นั้นเป็นผู้ไปดีแล้วในโลก ฯ
ช. ดูกรท่านผู้มีอายุ มรรคามีอยู่หรือ ปฏิปทามีอยู่หรือ เพื่อละราคะโทสะ โมหะนั้น ฯ
สา. มีอยู่ ผู้มีอายุ ฯ
ช. ดูกรท่านผู้มีอายุ ก็มรรคาเป็นไฉน ปฏิปทาเป็นไฉน เพื่อละราคะโทสะ โมหะ
นั้น ฯ
สา. อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ คือ ความเห็นชอบ ฯลฯ ตั้งใจชอบ นี้แลเป็น
มรรคา เป็นปฏิปทาเพื่อละราคะ โทสะ โมหะนั้น ฯ
ช. ดูกรท่านผู้มีอายุ มรรคาดีนัก ปฏิปทาดีนัก เพื่อละราคะ โทสะโมหะนั้น และ
เพียงพอเพื่อความไม่ประมาท นะท่านสารีบุตร ฯ