พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/292/412 413 414
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา ลำดับนั้น ฆฏิการะช่างหม้อ และโชติปาลมาณพ
อันพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เห็นแจ้ง ให้
สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา เพลิดเพลินชื่นชม พระภาษิตของพระผู้มีพระภาค
ทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วลุกจากอาสนะ ถวายอภิวาท
พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำประทักษิณแล้ว
หลีกไป.
[๔๑๒] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น โชติปาลมาณพได้ถามฆฏิการะช่างหม้อว่า เพื่อนฆฏิการะ
เมื่อท่านฟังธรรมนี้อยู่ และเมื่อเช่นนั้นท่านจะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตหรือหนอ?
ฆ. เพื่อนโชติปาละ ท่านก็รู้อยู่ว่า เราต้องเลี้ยงมารดาบิดา ซึ่งเป็นคนตาบอดผู้ชราแล้ว
มิใช่หรือ?
โช. เพื่อนฆฏิการะ ถ้าเช่นนั้น เราจักออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต.
[๔๑๓] ดูกรอานนท์ ครั้งนั้น ฆฏิการะช่างหม้อและโชติปาลมาณพได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง. ฆฏิการะช่างหม้อได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นี่โชติปาลมาณพเป็น
สหายที่รักของข้าพระพุทธเจ้า ขอพระผู้มีพระภาคทรงให้โชติปาลมาณพนี้บวชเถิด ดังนี้
โชติปาลมาณพได้บรรพชาอุปสมบทแล้วในสำนักพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็น
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า. ครั้นเมื่อโชติปาลมาณพอุปสมบทแล้วไม่นานประมาณกึ่งเดือน
พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสป ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ในเวภฬิค
นิคมตามควรแก่พระพุทธาภิรมย์แล้ว เสด็จหลีกจาริกไปทางพระนครพาราณสี เสด็จจาริกไป
โดยลำดับ ถึงพระนครพาราณสีแล้ว.
เรื่องพระเจ้ากาสีพระนามว่ากิกิ
[๔๑๔] ดูกรอานนท์ ได้ยินว่า ในคราวนั้นพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสป
ผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมิคทายวัน ใกล้พระนครพาราณสี.