พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/302/431 432
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
มีแต่ความสุข ได้รับเลี้ยงดูมาด้วยความสุข ท่านไม่รู้จักความทุกข์อะไรๆ เลย เชิญลุกขึ้น เพื่อน
รัฐปาละ ท่านจงบริโภค จงดื่ม จงให้บำเรอเถิด ท่านยังกำลังบริโภคได้ กำลังดื่มได้ กำลัง
ให้บำเรอได้ จงยินดีบริโภคกามทำบุญไปพลางเถิด. แม้ครั้งที่สาม รัฐปาลกุลบุตรก็ได้นิ่งเสีย.
ลำดับนั้น พวกสหายพากันเข้าไปหามารดาบิดาของรัฐปาลกุลบุตรถึงที่อยู่ แล้วได้กล่าวว่า
ข้าแต่คุณแม่คุณพ่อ รัฐปาลกุลบุตรนี้ นอนอยู่ที่พื้นอันปราศจากเครื่องลาด ณ ที่นั้นเอง ด้วย
ตั้งใจว่าที่นี้จักเป็นที่ตายหรือที่บวชของเรา ถ้าคุณแม่คุณพ่อจะไม่อนุญาตให้รัฐปาลกุลบุตรออกจาก
เรือนบวชเป็นบรรพชิต ก็จักตายเสียในที่นั้นเอง แต่ถ้าคุณแม่คุณพ่อจะอนุญาตให้รัฐปาลกุลบุตร
ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต คุณแม่คุณพ่อก็จักได้เห็นเขาแม้บวชแล้ว หากรัฐปาลกุลบุตร
จักยินดีในการบวชเป็นบรรพชิตไม่ได้ เขาจะไปไหนอื่น ก็จักลับมาที่นี่เอง ขอคุณแม่คุณพ่อ
อนุญาตให้รัฐปาลกุลบุตรออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเถิด.
มารดาบิดาอนุญาตให้บวช
[๔๓๑] มารดาบิดากล่าวว่า ดูกรพ่อทั้งหลาย เราอนุญาตให้รัฐปาลกุลบุตรออกจาก
เรือนบวชเป็นบรรพชิต แต่เมื่อเขาบวชแล้วพึงมาเยี่ยมมารดาบิดาบ้าง. ครั้งนั้น สหายทั้งหลาย
พากันเข้าไปหารัฐปาลกุลบุตรถึงที่อยู่ แล้วได้กล่าวว่า คุณแม่คุณพ่ออนุญาตให้ท่านออกจาก
เรือนบวชเป็นบรรพชิตแล้ว แต่เมื่อท่านบวชแล้ว พึงมาเยี่ยมคุณแม่คุณพ่อบ้าง.
รัฐปาละบวชและบรรลุพระอรหันต์
[๔๓๒] ครั้งนั้น รัฐปาลกุลบุตรลุกขึ้น บำรุงกายให้เกิดกำลังแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มี
พระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. แล้วได้ทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มารดาบิดาอนุญาตให้ข้าพระพุทธเจ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตแล้ว
ขอพระผู้มีพระภาคให้ข้าพระพุทธเจ้าบวชเถิด รัฐปาลกุลบุตรได้บรรพชา ได้อุปสมบทในสำนัก
พระผู้มีพระภาค. ครั้นเมื่อท่านรัฐปาละอุปสมบทแล้วไม่นาน พอได้กึ่งเดือน พระผู้มีพระภาค
ประทับอยู่ในถุลลโกฏฐิตนิคมตามควรแล้ว เสด็จจาริกไปทางนครสาวัตถี เสด็จจาริกไปโดยลำดับ
ได้เสด็จถึงพระนครสาวัตถีแล้ว.