พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/38/39
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
ร่มเงา ผู้ต้องการผลก็ย่อมบริโภคผลได้ ฉันใด ท่านผู้ปราศจากราคะ
ปราศจากโทสะ ปราศจากโมหะ ไม่มีอาสวะ เป็นบุญเขตในโลกย่อม
คบหาบุคคลผู้มีศรัทธา ซึ่งสมบูรณ์ด้วยศีล ประพฤติถ่อมตน ไม่กระด้าง
สุภาพ อ่อนโยน มีใจมั่นคง ฉันนั้นเหมือนกัน ท่านเหล่านั้น ย่อม
แสดงธรรมเครื่องบรรเทาทุกข์ทั้งปวงแก่เขา เขาเข้าใจทั่วถึงธรรมนั้นแล้ว
ย่อมเป็นผู้หมดอาสวกิเลส ปรินิพพาน ฯ
จบสูตรที่ ๘
๙. ปุตตสูตร
[๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มารดา บิดา เล็งเห็นฐานะ ๕ ประการนี้ จึงปรารถนา
บุตรเกิดในสกุล ฐานะ ๕ ประการเป็นไฉน คือ บุตรที่เราเลี้ยงมาแล้วจักเลี้ยงตอบแทน ๑
จักทำกิจแทนเรา ๑ วงศ์สกุลจักดำรงอยู่ได้นาน ๑ บุตรจักปกครองทรัพย์มรดก ๑ เมื่อเราตาย
ไปแล้ว บุตรจักบำเพ็ญทักษิณาทานให้ ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย มารดา บิดา เล็งเห็นฐานะ ๕
ประการนี้แล จึงปรารถนาบุตรเกิดในสกุล ฯ
มารดาบิดาผู้ฉลาด เล็งเห็นฐานะ ๕ ประการจึงปรารถนาบุตรด้วยหวังว่า
บุตรที่เราเลี้ยงมาแล้ว จักเลี้ยงตอบเรา จักทำกิจแทนเรา วงศ์สกุลจักดำรง
อยู่ได้นาน บุตรจักปกครองทรัพย์มรดก และเมื่อเราตายไปแล้ว บุตร
จักบำเพ็ญทักษิณาทานให้ มารดาบิดาผู้ฉลาดเล็งเห็นฐานะเหล่านี้ จึง
ปรารถนาบุตร ฉะนั้นบุตรผู้เป็นสัปบุรุษ ผู้สงบ มีกตัญญูกตเวที เมื่อ
ระลึกถึงบุรพคุณของท่าน จึงเลี้ยงมารดาบิดา ทำกิจแทนท่าน เชื่อฟัง
โอวาท เลี้ยงสนองพระคุณท่าน สมดังที่ท่านเป็นบุรพการี ดำรงวงศ์สกุล
บุตรผู้มีศรัทธา สมบูรณ์ด้วยศีลย่อมเป็นที่สรรเสริญทั่วไป ฯ
จบสูตรที่ ๙