พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/56/16

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 56
จุลลปันถกเถราปทานที่ ๔ (๑๔) ว่าด้วยพระจุลลปันถกปัญญาเขลา
[๑๖] เวลานั้น พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ทรงรับเครื่องบูชาแล้ว พระองค์ เสด็จหลีกออกจากหมู่ ประทับอยู่ ณ ภูเขาหิมวันต์ แม้เวลานั้นเราก็อยู่ ในอาศรมใกล้ภูเขาหิมวันต์ เราได้เข้าไปเฝ้าพระมหาวีรเจ้าผู้เป็นนายกของ โลก ซึ่งเสด็จมาไม่นาน เราถือเอาฉัตรอันประดับด้วยดอกไม้ เข้าไปเฝ้า พระนราสภ เราได้ทำอันตรายแก่พระผู้มีพระภาคซึ่งกำลังเสด็จเข้าสมาธิ เราประคองฉัตรดอกไม้ด้วยมือทั้งสองถวายแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มี พระภาคมหามุนีพระนามว่าปทุมุตระทรงรับแล้ว เทวดาทั้งปวงมีใจชื่นบาน เข้ามาสู่ภูเขาหิมวันต์ ยังสาธุการให้เป็นไปว่า พระผู้มีพระภาคผู้มีจักษุ ทรงอนุโมทนา ครั้นเทวดาเหล่านี้กล่าวเช่นนี้แล้วได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ ภาคผู้สูงสุดว่านระ เมื่อเรากั้นฉัตรดอกบัวอันอุดมอยู่ในอากาศ (พระผู้มี พระภาคตรัสว่า) ดาบสได้ประคองฉัตรใบบัว ๗ ใบให้แก่เรา เราจัก พยากรณ์ดาบสนั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ดาบสนี้จักเสวยเทวรัช สมบัติอยู่ตลอด ๒๕ กัลป์ และจักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๔ ครั้ง จะท่อง เที่ยวสู่กำเนิดใดๆ คือ ความเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ จักทรงไว้ซึ่งดอกปทุมอันตั้งอยู่ในอากาศ ในแสนกัลป พระศาสดาพระ นามว่าโคดม โดยพระโคตร ซึ่งมีสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จัก เสด็จอุบัติในโลก เมื่อพระศาสดาทรงประกาศพระศาสนา ดาบสผู้จักได้ ความเป็นมนุษย์ เราจักเป็นผู้อุดมในกายอันบังเกิดแล้วด้วยใจ จักมีพี่ น้องชายสองคนมีชื่อว่าปันถก แม้ทั้งสองคนเสวยประโยชน์อันสูงสุดแล้ว จักยังพระศาสนาให้รุ่งเรือง เรานั้นมีอายุ ๑๘ ปี ออกบวชเป็นบรรพชิต เรายังไม่ได้คุณวิเศษในศาสนาของพระศากยบุตร เรามีปัญญาเขลา เพราะ เราอบรมอยู่ในบุรี พระพี่ชายจึงขับไล่เราว่า จงไปสู่เรือนเดี๋ยวนี้ เราถูก พระพี่ชายขับไล่แล้วน้อยใจ ได้ยืนอยู่ที่ซุ้มประตูสังฆาราม ไม่หวังใน