พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/65/22

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 65
สุมังคลเถราปทานที่ ๑๐ (๒๐) ว่าด้วยผลแห่งการถวายอาหาร
[๒๒] เราประสงค์จะบูชาเครื่องเส้นสรวง จึงให้ตกแต่งโภชนาหารยืนอยู่ที่โรง ใหญ่ คอยต้อนรับพราหมณ์ทั้งหลาย ครั้งนั้นเราได้เห็นพระผู้มีพระภาค สัมพุทธเจ้า พระนามว่าปิยทัสสีทรงมียศมาก ทรงนำโลกทั้งปวงให้วิเศษ เป็นสยัมภูอัครบุคคลผู้โชติช่วง อันพระสาวกทั้งหลายแวดล้อม รุ่งเรือง ดังพระอาทิตย์ เสด็จดำเนินไปในถนน จึงประนมอัญชลียังจิตของตนให้ เลื่อมใส นิมนต์ด้วยใจเท่านั้นว่า ขอเชิญพระมหามุนีเสด็จมา พระ ศาสดาผู้ยอดเยี่ยมในโลก ทรงทราบความดำริของเราเสด็จมาสู่ประตู (เรือน) เรากับพระขีณาสพหนึ่งพัน (เราทูลว่า) ขอนอบน้อมแด่พระองค์ผู้บุรุษ อาชาไนย ขอนอบน้อมแด่พระองค์ผู้อุดมบุรุษ ขอเชิญเสด็จขึ้นปราสาท ประทับนั่งบนอาสนะอันอุดมเถิด พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคทรงฝึกพระ องค์แล้ว มีบริวารอันฝึกแล้วทรงข้ามพ้นแล้ว ประเสริฐกว่าบรรดาผู้ข้าม เสด็จขึ้นปราสาทแล้ว ประทับนั่งบนอาสนะอันประเสริฐ อามิสใดที่เรา รวบรวมไว้อันมีอยู่ในเรือนตน เรามีจิตเลื่อมใส ได้ถวายอามิสนั้น แด่ พระพุทธเจ้าด้วยมือทั้งสองของตนโดยเคารพ เรามีจิตเลื่อมใส มีใจ ผ่องแผ้ว เกิดโสมนัส ประนมอัญชลีนมัสการพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ว่า โอ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ในระหว่างพระอริยบุคคล ๘ นั่งฉันอยู่ มีพระขีณาสพเป็นอันมาก อานุภาพนี้ของท่านทั้งหลาย เรานับถือพระผู้มี พระภาคนั้นเป็นสรณะ พระผู้มีพระภาคพระนามว่าปิยทัสสี เชษฐบุรุษ ของโลกประเสริฐกว่านระ ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้วได้ตรัส พระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดได้นิมนต์สงฆ์ผู้ซื่อตรง มีจิตมั่นคง และพระ ตถาคตสัมพุทธเจ้าให้ฉัน เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรา กล่าว ผู้นั้นจักได้เสวยเทวราชสมบัติ ๒๗ ครั้ง จักปรารภในกรรมของตน