พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/72/24

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 72
ไม่ประมาท แม้พวกเราก็จักสร้างสถูปถวายแด่พระโลกนาถผู้คงที่ ฝูงครุฑ จึงได้สร้างสถูปอันสำเร็จด้วยแก้วมณีล้วน และกุญแจก็เช่นนั้น ได้สร้าง พระพุทธเจดีย์ต่อขึ้นไปให้สูงอีกโยชน์หนึ่ง พระพุทธสถูปสูงสุด ๔ โยชน์ รุ่งเรืองอยู่ ยังทิศทั้งปวงให้สว่างไสว ดังพระอาทิตย์อุทัยฉะนั้น และพวก กุมภัณฑ์ก็มาประชุมร่วมปรึกษากันในเวลานั้นว่า พวกมนุษย์และพวกเทวดา ฝูงนาคและฝูงครุฑ ได้สร้างสถูปอันอุดม ถวายเฉพาะแด่พระพุทธเจ้าผู้ ประเสริฐ พวกเราอย่าได้ประมาทเลย ดังมนุษย์เป็นต้นกับเทวดาไม่ ประมาท แม้พวกเราก็จักสร้างสถูปถวาย แต่พระโลกนาถผู้คงที่ พวก เราจักปกปิดพระพุทธเจดีย์ต่อขึ้นไปด้วยรัตนะ พวกกุมภัณฑ์ได้สร้าง พระพุทธเจดีย์ต่อขึ้นไปในที่สุดอีกโยชน์หนึ่ง เวลานั้นพระสถูปสูงสุด ๕ โยชน์ สว่างไสวอยู่ พวกยักษ์มาประชุมร่วมปรึกษากัน ณ ที่นั้นใน เวลานั้นว่า เวลานั้น มนุษย์ เทวดา นาค กุมภัณฑ์ (และ) ครุฑ ได้พากันสร้างสถูปอันอุดมถวายเฉพาะแด่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด พวก เราอย่าได้ประมาทเลย ดังมนุษย์เป็นต้น พร้อมกับเทวดาไม่ประมาท แม้พวกเราก็จักสร้างสถูปถวายแด่พระโลกนาถผู้คงที่ พวกเราจักปกปิด พระพุทธเจดีย์ต่อขึ้นไปด้วยแก้วผลึก พวกยักษ์จึงสร้างพระพุทธเจดีย์ ต่อขึ้นไป ในที่สุดอีกโยชน์หนึ่ง เวลานั้น พระสถูปจึงสูงสุด ๖ โยชน์ สว่างไสวอยู่ พวกคนธรรพ์พากันมาประชุมร่วมปรึกษากันในเวลานั้นว่า สัตว์ทั้งปวง คือ มนุษย์ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์และยักษ์ พากันสร้างพระสถูปแล้ว บรรดาสัตว์เหล่านี้ พวกเรายังไม่ได้สร้าง แม้พวกเราก็จักสร้างสถูปถวายต่อพระโลกนาถผู้คงที่ พวกคนธรรพ์ จึงพากันสร้างไพรที ๗ ชั้น ได้สร้างตลอดทางเดิน เวลานั้น พวก คนธรรพ์ได้สร้างสถูปสำเร็จด้วยทองคำล้วน ในกาลนั้น พระสถูปจึง สูงสุด ๗ โยชน์ สว่างไสวอยู่ กลางคืนกลางวันไม่ปรากฏ แสง สว่างมีอยู่เสมอไป พระจันทร์พระอาทิตย์พร้อมทั้งดาวครอบงำรัศมีพระ สถูปนั้นไม่ได้ ก็แสงสว่างโพลงไปไกลร้อยโยชน์โดยรอบ (พระสถูป) ในเวลานั้น มนุษย์เหล่าใดจะบูชาพระสถูป พวกเขาไม่ต้องขึ้นพระสถูป