พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/73/24

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 73
พวกเขายกขึ้นไว้ในอากาศ ยักษ์ตนหนึ่งพวกเทวดาตั้งไว้ ชื่อว่าอภิสมมต มันยกธงหรือพวงดอกไม้ขึ้นไปในเบื้องสูง มนุษย์เหล่านั้นมองไม่เห็นยักษ์ เห็นแต่พวงดอกไม้ขึ้นไป ครั้นเห็นเช่นนี้แล้วกลับไป มนุษย์ทั้งหมด ย่อมไปสู่สุคติ มนุษย์เหล่าใดชอบใจในปาพจน์ และเหล่าใดเลื่อมใส ในพระศาสนา ต้องการจะเห็นปาฏิหาริย์ ย่อมบูชาพระสถูป เวลานั้น เราเป็นคนยากไร้อยู่ในเมืองหงสวดี เราได้เห็นหมู่ชนเบิกบาน จึงคิด อย่างนี้ในเวลานั้นว่า เรือนพระธาตุเช่นนี้ ของพระผู้มีพระภาคพระองค์ใด พระผู้มีพระภาคพระองค์นี้โอฬาร ก็หมู่ชนเหล่านี้มีใจยินดีไม่รู้จักอิ่มใน สักการะที่ทำอยู่ แม้เราก็จักทำสักการะแด่พระโลกนาถผู้คงที่บ้าง เราจักเป็น ทายาทในธรรมของพระองค์ในอนาคต เราจึงเอาเชือกผูกผ้าห่มของเราอัน ซักขาวสะอาดแล้ว คล้องไว้ที่ยอดไม้ไผ่ ยกเป็นธงขึ้นไว้ในอากาศ ยักษ์ อภิสมมตจับธงของเรานำขึ้นไปในอัมพร เราเห็นธงอันลมสะบัด ได้เกิด ความยินดีอย่างยิ่ง เรายังจิตให้เลื่อมใสในพระสถูปนั้นแล้ว เข้าไปหา ภิกษุรูปหนึ่ง กราบไหว้ภิกษุนั้นแล้ว ได้สอบถามถึงผลในการถวายธง ท่านยังความเพลิดเพลินและปีติให้เกิดแก่เรา กล่าวแก่เราว่า ท่านจักได้ เสวยวิบากของธงนั้นในกาลทั้งปวง จตุรงคเสนา คือ พลช้าง พลม้า พลรถ และพลเดินเท้า จักแวดล้อมท่านอยู่เป็นนิตย์ นี้เป็นผลแห่งการ ถวายธง ดนตรีละ ๖ หมื่น และกลองเภรีอันประดับสวยงามจะประโคม แวดล้อมท่านเป็นนิตย์ นี้เป็นผลแห่งการถวายธง หญิงสาวแปดหมื่น หกพัน อันประดับงดงาม มีผ้าและอาภรณ์วิจิตร สวมใส่แก้วมณี และ กุณฑล หน้าแฉล้ม แย้มยิ้ม มีตะโพกผึ่งผาย เอวเล็ก เอวบาง จักแวดล้อม (บำเรอ) ท่านเป็นนิตย์ นี้เป็นผลแห่งการถวายธง ท่านจักรื่นรมย์อยู่ใน เทวโลกตลอด ๓ หมื่นกัลป จักได้เป็นจอมเทวดาเสวยเทวรัชสมบัติอยู่ ๘๐ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๐๐๐ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้า ประเทศราชอันไพบูลย์โดยคณานับมิได้ ในแสนกัลป พระศาสดาทรง