พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/76/196 197 198

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 76
ตั้งมั่นดี มีจิตคงที่ ล่วงแล้วซึ่งสงสาร เป็นผู้บริบูรณ์. พระผู้มีพระภาคนั้นอันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัย เป็นผู้คงที่ บัณฑิตกล่าวว่าเป็นผู้ประเสริฐ. ญาณในมรรค ๔ ตรัสว่าเวท ในคำว่า เวทคุํ ฯลฯ พราหมณ์นั้นเป็นเวทคู เพราะล่วง เสียซึ่งเวททั้งปวง. คำว่า อภิชญฺญา ความว่า พึงรู้จัก คือ พึงรู้ทั่ว รู้แจ้ง รู้แจ้งเฉพาะ แทงตลอด เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า พึงรู้จักผู้ใดว่าเป็นพราหมณ์ผู้ถึงเวท.
[๑๙๖] คำว่า อกิญฺจนํ ในอุเทศว่า อกิญฺจนํ กามภเว อสตฺตํ ดังนี้ ความว่า เครื่องกังวล คือ ราคะ เครื่องกังวล คือ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต. เครื่องกังวลเหล่านี้อันผู้ใดละขาดแล้ว ตัดขาดแล้ว สงบแล้ว ระงับแล้ว ทำไม่ให้อาจเกิดขึ้น เผาเสียแล้วด้วยไฟคือญาณ ผู้นั้นพระผู้มีพระภาคตรัสว่า ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล. โดยอุทานว่า กาม กามมี ๒ อย่าง คือ วัตถุกาม ๑ กิเลสกาม ๑. ฯลฯ เหล่านี้ตรัสว่า วัตถุกาม. ฯลฯ เหล่านี้ตรัสว่า กิเลสกาม. ชื่อว่าภพ คือ ภพ ๒ อย่าง. คือ กรรมภพ ๑ ภพใหม่อันมีในปฏิสนธิ ๑. ฯลฯ นี้ ชื่อว่าภพใหม่อันมีในปฏิสนธิ. คำว่า อกิญฺจนํ กามภเว อสตฺตํ ความว่า ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ไม่ข้องเกี่ยว คือ ไม่ข้องแวะ ไม่เกาะเกี่ยว ไม่พัวพัน ในกามภพ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ไม่ข้องเกี่ยวในกามภพ.
[๑๙๗] คำว่า อทฺธา ในอุเทศว่า อทฺธา หิ โส โอฆมิมํ อตาริ ดังนี้ เป็นเครื่อง กล่าวโดยส่วนเดียว ฯลฯ คำว่า อทฺธา นี้เป็นเครื่องกล่าวแน่แท้. คำว่า โอฆํ คือ กามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฏฐิโอฆะ อวิชชาโอฆะ. คำว่า อตาริ ความว่า ข้ามแล้ว คือ ข้ามขึ้นแล้ว ข้าม พ้นแล้ว ก้าวล่วงแล้ว เป็นไปล่วงแล้ว เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้นั้นได้ข้ามแล้วซึ่งโอฆะนี้ โดยแท้.
[๑๙๘] คำว่า ติณฺโณ ในอุเทศว่า "ติณฺโณ จ ปารํ อขิโล อกงฺโข" ดังนี้ ความว่า ผู้นั้นข้ามได้แล้ว คือ ข้ามขึ้น ข้ามพ้น ล่วงพ้นแล้ว เป็นไปล่วงแล้ว ซึ่งกามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฏฐิโอฆะ อวิชชาโอฆะ มีความอยู่จบแล้ว มีจรณะอันประพฤติแล้ว มีทางไกลอันถึงแล้ว