พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/80/299 300 301 302 303
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
นันทสูตรที่ ๗
[๒๙๙] นันทเทพบุตร ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กล่าว คาถานี้ในสำนัก
พระผู้มีพระภาคว่า
กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป ฯ
บุคคลมาพิจารณาเห็นภัยในมรณะนี้ ควรทำบุญอันนำความสุขมาให้ ฯ
[๓๐๐] พ. กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป บุคคลมา
พิจารณาเห็นภัยในมรณะนี้ มุ่งต่อสันติ ควรละโลกามิสเสีย ฯ
นันทิวิสาลสูตรที่ ๘
[๓๐๑] นันทิวิสาลเทพบุตร ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว จึงได้กล่าวคาถา
ทูลถวายพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมหาวีรบุรุษ สรีรยนต์ มีจักร ๑- ๔ มีทวาร ๒- ๙
เต็มไปด้วยของไม่สะอาด ประกอบด้วยความโลภ ย่อมเป็นประดุจ
เปือกตม ไฉนจักมีความออกไปจากทุกข์ได้ ฯ
[๓๐๒] พ. บุคคลตัดความผูกโกรธด้วย กิเลสเป็นเครื่องรัดด้วย ความปรารถนาและ
ความโลภอันชั่วช้าด้วย ถอนตัณหาพร้อมทั้งอวิชชาอันเป็นมูล รากเสียได้ อย่างนี้จึงจักออกไป
จากทุกข์ได้
สุสิมสูตรที่ ๙
[๓๐๓] สาวัตถีนิทาน ฯ
ณ กาลครั้งหนึ่ง ท่านพระอานนท์เถระเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ ประทับ ครั้นแล้ว
จึงถวายอภิวาท นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ