พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/82/307 308 309 310 311 312
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๓๐๗] แก้วมณีและแก้วไพฑูรย์ อันงาม โชติช่วง แปดเหลี่ยม อันบุคคลขัดสี
เรียบร้อยแล้ว วางไว้บนผ้ากัมพลสีเหลือง ย่อมส่องแสงแพรวพราวรุ้งร่วง ฉันใด
เทพบุตรบริษัทของสุสิมเทพบุตร ขณะที่สุสิมเทพบุตรกำลังกล่าว สรรเสริญคุณท่านพระสารีบุตร
อยู่ เป็นผู้ปลื้มใจ เบิกบาน เกิดปีติโสมนัส มีรัศมีแห่งผิวพรรณแพรวพราวปรากฏอยู่ ฯ
[๓๐๘] แท่งทองชมพูนุท เป็นของที่บุตรนายช่างทองผู้ขยันหมั่นใส่เบ้า หลอมไล่จนสิ้น
ราคีเสร็จแล้ว วางไว้บนผ้ากำพลสีเหลือง ย่อมขึ้นสีผุดผ่องเปล่ง ปลั่ง ฉันใด เทพบุตรบริษัท
ของสุสิมเทพบุตร ขณะที่สุสิมเทพบุตรกำลังกล่าว สรรเสริญคุณท่านพระสารีบุตรอยู่ เป็นผู้
ปลื้มใจ เบิกบาน เกิดปีติโสมนัส มีรัศมี แห่งผิวพรรณแพรวพราวปรากฏอยู่ ฯ
[๓๐๙] ดาวประกายพฤกษ์ ขณะที่อากาศปลอดโปร่งปราศจากหมู่เมฆใน ฤดูสรทกาล
ย่อมส่องแสงสุกสกาววาวระยับ ฉันใด เทพบุตรบริษัทของสุสิมเทพบุตร ขณะที่สุสิมเทพบุตร
กำลังกล่าวสรรเสริญคุณท่านพระสารีบุตรอยู่ เป็นผู้ ปลื้มใจ เบิกบาน เกิดปีติโสมนัส มีรัศมี
แห่งผิวพรรณแพรวพราวปรากฏอยู่ ฯ
[๓๑๐] พระอาทิตย์ขณะที่อากาศปลอดโปร่ง ปราศจากหมู่เมฆในฤดู สรทกาล พวยพุ่ง
ขึ้นสู่ท้องฟ้า ขจัดความมืดที่มีอยู่ในอากาศทั้งปวง ย่อมแผดแสง แจ่มจ้าไพโรจน์ ฉันใด
เทพบุตรบริษัทของสุสิมเทพบุตร ขณะที่สุสิมเทพบุตร กำลังกล่าวสรรเสริญคุณท่านพระสารีบุตร
อยู่ เป็นผู้ปลื้มใจ เบิกบาน เกิดปีติ โสมนัส มีรัศมีแห่งผิวพรรณแพรวพราวปรากฏอยู่ ฯ
[๓๑๑] ครั้งนั้น สุสิมเทพบุตร ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาค ปรารภถึงท่าน
พระสารีบุตรว่า
ท่านพระสารีบุตรคนรู้จักท่านดีว่าเป็นบัณฑิตไม่ใช่คนมักโกรธ มีความ
ปรารถนาน้อย สงบเสงี่ยม ฝึกฝนมาดี มีคุณงามความดี
อันพระศาสดาทรงสรรเสริญ เป็นผู้แสวงคุณ ฯ
[๓๑๒] พระผู้มีพระภาคได้ภาษิตคาถาตอบสุสิมเทพบุตรปรารภถึงท่าน พระสารีบุตรว่า
สารีบุตรใครๆ ก็รู้จักว่าเป็นบัณฑิต ไม่ใช่คนมักโกรธ มีความ
ปรารถนาน้อย สงบเสงี่ยม อบรม ฝึกฝนมาดี จำนงอยู่ก็แต่กาลเป็น
ที่ปรินิพพาน ฯ