พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/84/317 318 319 320 321
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
[๓๑๗] อาโกฏกเทพบุตร ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาค ปรารภถึงพวกเดียรถีย์
ต่างๆ ต่อไปอีกว่า
ท่านปกุธะ กัจจายนะ ท่านนิครนถ์ นาฏบุตร และพวกท่านมักขลิโคศาล
ท่านปูรณะกัสสปเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นศาสดาของหมู่ บรรลุถึงที่สุดใน
สมณธรรมแล้ว ท่านเหล่านั้นคงเป็นผู้ไม่ไกลไปจากสัตบุรุษแน่นอน ฯ
[๓๑๘] เวฏัมพรีเทพบุตร ได้กล่าวตอบอาโกฏกเทพบุตรด้วยคาถาว่า
สุนัขจิ้งจอกสัตว์เลวๆ ใคร่จะตีตนเสมอราชสีห์ แม้จะไม่ใช่สัตว์
ขี้เรื้อน แต่ก็มีบางคราวที่ทำตนเทียมราชสีห์ ฯ
ครูของหมู่บำเพ็ญตัวเป็นคนแนะหนทาง แต่พูดคำเท็จ มีมรรยาท
น่ารังเกียจ จะเทียบกับสัตบุรุษไม่ได้ ฯ
[๓๑๙] ลำดับนั้น มารผู้ลามกเข้าสิงเวฏัมพรีเทพบุตรแล้วได้กล่าวคาถานี้ใน
สำนักพระผู้มีพระภาคว่า
สัตว์เหล่าใด ประกอบแล้ว ในความเกลียดบาปด้วยตบะรักษาความ
สงบสงัดอยู่ ติดอยู่ในรูป ปรารถนาเทวโลก สัตว์เหล่านั้น ย่อม
สั่งสอนชอบ เพื่อปรโลกโดยแท้ ฯ
[๓๒๐] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า นี้เป็นมารตัวร้ายกาจ จึงได้ทรงภาษิตคาถา
ตอบมารผู้ลามกว่า
รูปใดๆ จะอยู่ในโลกนี้หรือโลกหน้า และจะอยู่ในอากาศ มีรัศมี
รุ่งเรืองก็ตามที รูปทั้งหมดเหล่านั้น อันมารสรรเสริญแล้ว วางดักสัตว์
ไว้แล้ว เหมือนเขาเอาเหยื่อล่อเพื่อฆ่าปลาฉะนั้น ฯ
[๓๒๑] ลำดับนั้น มาณวคามิยเทพบุตร ได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ในสำนัก พระผู้มีพระภาค
ปรารภถึงพระผู้มีพระภาคว่า
ภูเขาวิปุละ เขากล่าวกันว่า เป็นสูงเยี่ยมกว่าภูเขาที่ตั้งอยู่ในพระนคร
ราชคฤห์ เสตบรรพตเป็นเลิศกว่าภูเขาที่ตั้งอยู่ในป่าหิมวันต์ พระอาทิตย์
เป็นเลิศกว่าสิ่งที่ไปในอากาศ มหาสมุทรเป็นเลิศกว่าห้วงน้ำทั้งหลาย