พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/94/235 236

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 94
คำว่า มเหสี ในอุเทศว่า มเหสี สนฺติมุตฺตมํ ดังนี้ ความว่า พระผู้มีพระภาคทรง แสวงหา เสาะหา ค้นหาซึ่งสีลขันธ์ใหญ่ เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า มเหสี. พระผู้มีพระภาคทรง แสวงหา เสาะหา ค้นหาซึ่งสมาธิขันธ์ใหญ่ ฯลฯ พระผู้มีพระภาคเป็นเทวดาล่วงเทวดา ประทบ อยู่ ณ ที่ไหน. พระนราสภประทับอยู่ ณ ที่ไหน. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า มเหสี. อมตนิพพาน ความสงบสังขารทั้งปวง ความสละคืนอุปธิทั้งปวง ความสิ้นตัณหา ความสำรอกกิเลส ความดับ ความออกจากตัณหาเป็นเครื่องร้อยรัด เรียกว่า สันติ ในอุเทศว่า "สนฺติมุตฺตมํ". คำว่า อุตฺตมํ ความว่า เลิศ ประเสริฐ วิเศษ เป็นประธาน สูงสุดอย่างยิ่ง เพราะ ฉะนั้นจึงชื่อว่า มเหสี สนฺติมุตฺตมํ.
[๒๓๕] คำว่า ที่บุคคลรู้แจ้งแล้วเป็นผู้มีสติเที่ยวไป ความว่า กระทำให้รู้แจ้ง คือ เทียบเคียง พิจารณา เจริญ ทำให้แจ่มแจ้งแล้ว คือ ทำให้รู้แจ้ง ... แจ่มแจ้งแล้ว สังขาร ทั้งปวงไม่เที่ยง ฯลฯ สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับไป เป็นธรรมดา. คำว่า เป็นผู้มีสติ ความว่า มีสติด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ มีสติเจริญสติปัฏฐาน เครื่อง พิจารณาเห็นกายในกาย ฯลฯ บุคคลนั้นเรียกว่า เป็นผู้มีสติ. คำว่า จรํ ความว่า เที่ยวไป เที่ยวไปทั่ว ผลัดเปลี่ยนอิริยาบถ ประพฤติ รักษา บำรุง เยียวยา เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ที่รู้แจ้งแล้ว เป็นผู้มีสติเที่ยวไป.
[๒๓๖] ตัณหา ราคะ สาราคะ ฯลฯ อภิชฌา โลภะ อกุศลมูล เรียกว่า ตัณหา อันซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ ในอุเทศว่า "ตเร โลเก วิสตฺติกํ". คำว่า วิสตฺติกา ความว่า ตัณหาชื่อวิสัตติกา เพราะอรรถว่ากระไร? ฯลฯ เพราะอรรถว่า ซ่านไป กว้างขวาง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า วิสตฺติกา. คำว่า โลเก คือ ในอบายโลก ฯลฯ ในอายตนโลก. คำว่า พึงข้ามตัณหาอันซ่านไปใน อารมณ์ต่างๆ ในโลก ความว่า พึงเป็นผู้มีสติข้าม คือ ข้ามขึ้น ข้ามพ้น ก้าวล่วง เป็นไปล่วง ซึ่งตัณหาอันซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ ในโลกนั้น เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า พึงข้ามตัณหาอันซ่านไป ในอารมณ์ต่างๆ ในโลก. เพราะเหตุนั้นพราหมณ์นั้นจึงกล่าวว่า